ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยันผลสอบปากคำพยานแวดล้อม-หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ระบุชัดเมีย”ร.ต.อ.” ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แจ้งข้อหา”ฆ่าผู้อื่น” ไว้ก่อน พร้อมให้ต้นสังกัดตั้ง”ออกจากราชการไว้ก่อน”
หลังจากที่เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ ภรรยาของร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง นอนเสียชีวิตบนโซฟาภายในบ้านหลังหนึ่ง ย่านบางกะปิ โดยพบร่องรอยกระสุนปืน .45 ออโต้เข้าที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย 1 นัด โดยร.ต.อ.ทรงกลดอ้างว่า ภรรยายิงตัวตายเพราะเครียดปัญหาบางอย่าง ขณะที่ทางครอบครัวผู้ตายไม่เชื่อ สงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง
ล่าสุดวันที่ 22 มิถุนายนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาครอบครัว แม้ว่าคดีนี้จะไม่มีประจักษ์พยาน แต่จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสาเหตุการตายไม่ได้เกิดจากการฆ่าตัวตาย ซึ่งวันนี้ตนได้เรียกตัว ร.ต.อ.ทรงกลด มาสอบปากคำเบื้องต้น เขาก็ให้การภาคเสธ ยอมรับว่ามีการถืออาวุธปืนลงมาเคลียร์ปัญหากับภรรยา ซึ่งในวันนี้พนักงานสอบสวนจะได้มีการแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” แก่ ร.ต.อ.ทรงกลด ตามพยานหลักฐานที่มีในเบื้องต้นก่อน ส่วนพยานหลักฐานอื่นๆ อยู่ระหว่างรวบรวม
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า แม้ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.ทรงกลดจะให้การว่าภรรยาฆ่าตัวตาย ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และผลการชันสูตร ส่วนหน้าที่การงานของเขา เมื่อถูกแจ้งข้อหาก็ต้องตกเป็นผู้ต้องหา และดำเนินการทางวินัย สำหรับการให้ออกจากราชการต้องให้ต้นสังกัดพิจารณาขึ้นมา เพราะมีหลักเกณฑ์การพิจารณาอยู่ว่า จะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หรือจะทำให้การสอบสวนล่าช้าหรือไม่ ถ้าต้นสังกัดยืนยันมาแบบนั้น ก็ต้องให้ออกจากราชการ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน หากไม่มีหลักฐานชัดเจนคงไม่แจ้งข้อกล่าวหา
