ตร.อุดรฯตั้งชุดล่าแก๊งหมอปลอมหลอกจองวัคซีน ซิโนฟาร์ม มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 5 โรงพัก

ตร.อุดรฯตั้งชุดล่าแก๊งหมอปลอมหลอกจองวัคซีน ซิโนฟาร์ม มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 5 โรงพัก 

จากกรณี น.ส.สวย นามสมมติ อายุ อายุ 45 ปี อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี แจ้งตำรวจโรงพักเมืองอุดรธานี ว่า ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อ “ซิโนฟาร์ม”  เหลือจากที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้สั่งซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์  แต่ไม่ได้ฉีดตามที่จอง จึงนำหลักฐานการโอนเงิน 36,000 บาท เข้าธนาคารกรสิไทย เลขบัญชี 0331431532 ชื่อบัญชีนายวีระศักดิ์ และหลักฐานพูดคุยกลุ่มไลน์ชื่อว่า “Vaccine Sinopharm” มามอบให้ตำรวจ ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันที่ 1 กรกฎาคม 2564  เวลา09.30 น. ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.อุดรธานี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ได้เชิญ  น.ส.สวย นามสมมุติ อายุ 45 ปี  อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ผู้เสียหาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม และ ขอตรวจสอบดูในไลน์กลุ่ม มีใครบ้าง 

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากตรวจสอบ ได้มีผู้เสียหายโดนหลอกหลายราย ได้ไปแจ้งความโรงพักหลายแห่ง ได้แก่  ที่สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน สถานีตำรวจนครบาลสมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร วันที่28 มิถุนายน สถานีตำรวจภูธร ปากเกร็ด จ.นนทบุรี วันที่30 มิถุนายน  สน.เตาปูน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28มิถุนายน และวันที่ 30 มิถุนายน ที่สภ.เมืองอุดรธานี  โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจแต่ละพื้นที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความ ให้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดี ในการหาผู้กระทำความผิด เข้าข่ายฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

สำหรับผู้เสียหายที่ จ.อุดรธานี ถือว่าได้รับความเสียหาย เป็นเงินจำนวน 36,000 บาท ถึงแม้ว่าเงินจำนวนนี้ไม่มากนัก แต่ความเสียหายในเรื่องความเชื่อความศรัทธา เอาเปรียบคนที่ไม่มีทางเลือก โดยผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าไปยังบัญชีนายวีระศักดิ์  เขายอมรับว่าเปิดบัญชีแทนให้กัน ถือว่าเปิดบัญชีแทนกันก็มีความผิด ทางตำรวจจะทำการประสานไปยังตำรวจท้องที่ต่างๆ ที่มีการแจ้งความเอาไว้  ส่วนคนที่เป็นแบ็คอัพ หรือคนที่ทำการหลอกลวง มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จ แล้วทำให้เกิดความเสียหาย กับผู้เสียหายรายใดบ้างแต่ละพื้นที่ จะมีการตรวจสอบให้ชัดเจน

พล.ต.ต.พิษณุ เปิดเผยต่อว่า  ตอนนี้ได้ตั้งทีมชุดทำงาน ได้แก่ ฝ่ายสืบสวน พต.อ.สมภพ  สังข์กรทอง รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เป็นดูแล ฝ่ายสอบสวน ,พ.ต.อ.ศักดิ์ดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก.ภจว.อุดรธานี เป็นดูแลฝ่ายสอบสวน ได้ตรวจสอบดูพฤติกรรมในการหลอกผู้เสียหาย จะคล้ายกัน จำเป็นต้องประสานข้อมูลกับโรงพัก ทั้ง 4 แห่ง ที่ผู้เสียหายไปแจ้งความ มีความเชื่อมโยงกันอย่างไรบ้าง เพื่อนำพยานหลักฐานเหล่านี้ เพื่อนำมาใช้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง

ส่วนคนที่หลอกผู้เสียหาย จะเป็นหมอจริงหรือไม่ ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้ แต่การสอบปากคำผู้เสียหาย เชื่อว่าบุคคลนี้ อาจจะแอบอ้าง ปลอมตัว หรือทำให้คนอื่นหลงเชื่อว่าตนเองเป็นหมอ เพราะในกลุ่มโซเชียลมีเดีย หรือกลุ่มไลน์ ได้มีการให้คำแนะนำ ต่างๆ รวมถึงทักมาหาส่วนตัวผู้เสียหาย ในการแนะนำด้วย จึงมีโอกาสสูงให้เข้าใจว่าเป็นหมอ หากตำรวจได้ตัวแล้วจะนำตรวจสอบดูว่ามีใบประกอบวิชาแพทย์หรือไม่” 

ภาพ/ข่าว นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม