หนุ่ม 43 ปี ควบกระบะชนราวสะพาน หวิดพุ่งลงแม่น้ำชี
ชายอายุ43ปีควบกระบะ อ้างยางแตกเสียหลักพุ่งชนราวสะพานข้ามแม่น้ำชี จนราวสะพานขาดพังตกลงไปริมแม่น้ำสูงกว่า 10 เมตร เฉียดหล่นทับบ้านพักคนงานเฝ้าเครื่องสูบน้ำ เคราะห์ดีรอดตายหวุดหวิด
เมื่อเวลา 20:30 น.วันที่ 6 ธันวาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.เฉลียวเดช พิริยะธนากุล สว. (สอบสวน) สภ.บ้านเขว้าอำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ รับแจ้งจากทาง 191 ศูนย์วิทยุภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามี เหตุรถยนต์กระบะชนราวสะพาน ข้ามแม่น้ำชี เขตรอยต่อระหว่างเขตอำเภอบ้านเขว้าและอำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยสายตรวจจาก สภ.หนองบัวระเหว และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรม
ในที่เกิดเหตุบริเวณกลางสะพานข้ามแม่น้ำชี บริเวณบ้านโนนเปลือย ตำบลตลาดแร้งอำเภอบ้านเขว้าจังหวัดชัยภูมิ พบรถยนต์ Toyota สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บบ 2465 จังหวัดชัยภูมิ จอดอยู่บนไหล่ทางชิดราวสะพาน สภาพด้านหน้าและด้านข้างซ้าย พังยับล้อหน้าหลุด ล้อหลังยางแตก โดยมีนายสมพร อุตรศรี อายุ 43ปี เป็นผู้ขับขี่ รถยนต์คันดังกล่าว ห่างออกไปไม่ถึง 10 เมตร ยังพบกับราวสะพานที่ถูกรถคันดังกล่าวชนจะทำให้ ราวสะพานพังขาดหล่นลงไปด้านล่างริมแม่น้ำชี ที่มีความลึกลงไปเกือบ 10 เมตรจากด้านบน และพบว่ายังโชคดีที่ราวสะพานที่พังไม่ตกลงไปใส่กับบ้านพักคนงานเฝ้าเครื่องสูบน้ำที่อยู่ด้านล่าง ที่มีคนงานอาศัยอยู่ต้องสะดุ้งตื่น
สอบถามไปยังนายสมพร อุตรศรี เล่าว่า ขณะที่ตนได้ขับขี่รถยน์คังดังกล่าวกลับจากอำเภอบ้านเขว้าเพื่อมุ่งหน้าจะกลับบ้านในเขตอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ มาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดยางแตก ทำให้เสียหลักพุ่งเข้าชนราวสะพาน และ รถได้ไถลมาหยุดห่างจากจุดที่ชน แรงชนจึงทำให้รถได้รับความเสียหายไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ และไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ทางด้านนายอุไร ศรีมามิตร อายุ 70 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 384 หมู่ที่ 7 บ้านโนนเปลือย ตำบลตลาดแร้ง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เล่าว่าขณะที่ตนได้นอนอยู่ในแคมป์บ้านพักคนงานเฝ้าเครื่องสูบน้ำ ขณะที่นอนดูทีวีอยู่ในห้อง ด้านล่างใต้สะพาน ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นและได้ยินเสียงเหมือนมีสิ่งของตกลงมาจากสะพาน เฉียดด้านหน้าห้องพักไปเพียงไม่กี่เมตร ต้นจึงรีบออกมาดูและขึ้นมาดูบริเวณถนน ก็พบว่าราวสะพานได้พังลงไปและใกล้กัน ยังพบรถยนต์คันดังกล่าวพร้อมผู้ขับขี่ยืนอยู่นอกรถ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ทางด้าน พ.ต.ต.เฉลียวเดช พิริยะธนากุล สว. (สอบสวน) สภ.บ้านเขว้า ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่ามีทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย แต่ไม่มีคู่กรณี และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงเชิญตัวผู้ขับขี่ไปทำการสอบสวนเปรียบเทียบปรับ และทำการส่งวัดหาค่าแอลกอฮอล์ในร่างกาย หากพบว่ามีค่าแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ภาพ : ข่าว นที นิลกลัด ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชัยภูมิ
