แห่รับเหรียญ "หลวงปู่เฮง" รุ่นสร้างกุฏิ เป็นมงคลแก่ลูกหลานช่วงส่งท้ายปี

แห่รับเหรียญ “หลวงปู่เฮง” รุ่นสร้างกุฏิ เป็นมงคลแก่ลูกหลานช่วงส่งท้ายปี

แห่รับเหรียญ “หลวงปู่เฮง” รุ่นสร้างกุฏิ เป็นมงคลแก่ลูกหลานช่วงส่งท้ายปี

วันที่ (8 ธ.ค. 63) ที่วัดพัฒนาธรรมฆาราม (บ้านด่านช่องจอม) ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ว่าที่ ร.ต.เอกพงศ์ เข็มทอง หรือโก๋ สุรินทร์ ได้ทำพิธีมอบกุฏิและโรงอาหารหลังใหม่ ใช้งบประมาณ 2,399,999 บาท ซึ่งจัดสร้างโดยว่าที่ ร.ต.เอกพงศ์ เข็มทอง และคณะศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ ถวายให้กับหลวงปู่เฮง ปภาโส เกจิชื่อดังแดนดินถิ่นอีสานใต้ โดยมีนายเรืองยศ ลิ้มนุกูลเจริญ นายอำเภอกาบเชิง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จากนั้นได้ทำการทำพิธีบวงสรวงและมหาพุทธาภิเษก สุดยอดมหาสุดยอดวัตถุมงคล เหรียญน้ำเต้าลายเซ็น รุ่นสร้างกุฏิ ของหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม ที่สิริอายุ 94 ปี พรรษา 44 พรรษา

ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ให้ลูกหลานได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ส่งท้ายปี 2563 โดยมีนายเรืองยศ ลิ้มนุกูลเจริญ นายอำเภอกาบเชิง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีว่าที่ ร.ต.เอกพงศ์ เข็มทอง หรือโก๋ สุรินทร์ ซึ่งลูกหลานชาวสุรินทร์ สายตรงเป็นผู้จัดสร้าง เพื่อเป็นทุนร่วมสร้างกุฏิ หลังดังกล่าว และมอบเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้แก่ลูกหลานในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จำนวน 4,000 เหรียญ แก่ผู้ที่มาร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษก ตามเจตน์จำนงของหลวงปู่เฮง โดยมี หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านช่องจอม เป็นผู้อธิฐานจิต พิธีมหาพุทธาภิเษก พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ในวัดร่วมสวดในพิธี

โดยเหรียญที่พุทธาภิเษกในครั้งนี้หลักๆ ประกอบด้วย เหรียญเนื้อทองคำหลังเรียบดอก สร้างจำนวน 5 เหรียญ ราคาจอง 99,999 บาท ,เนื้อทองคำยาแดง-น้ำเงินหลังยันต์ จำนวน 19 เหรียญ ราคาจอง 79,999 บาท ,เนื้อเงินหน้าทองคำ-ขอบทองคำลงยาเขียว-แดง จำนวน 19 เหรียญ ราคา 79,999 บาท , เนื้อกะหลั่ยหลังเรียบ เงิน-ทอง-นาก 2 ชุด จำนวนสร้าง 114 เหรียญ ราคา 79,999 บาท (ทั้ง 4 แบบ จองเต็มหมดแล้ว) ที่ยังสั่งจองได้มี เนื้อเงินหน้าทองคำเต็มแผ่น จำนวนสร้าง 29 เหรียญ ราคาจอง 15,000 บาท , เนื้อเงินชุบทองจิวเวลรี่หน้ากากทองคำลงยาพื้นแดง-ขาว-แดง จำนวนสร้าง 55 เหรียญ ราคาจอง 6,500 บาท ,เนื้อเงินชุบทองจิวเวลรี่ลงยาเหลือง พื้นน้ำเงิน-เขียว-แดง จำนวน 199 เหรียญ ราคาจอง 2,500 บาท , เนื้อเงินชุบทองจิวเวลรี่ลงยาเหลือง พื้นแดง จำนวน 199 เหรียญ ราคาจอง 2,500 บาท , เนื้อนวะหน้ากากทองคำลงยาขาว-แดง จำนวนสร้าง 55 เหรียญ ราคาจอง 5,500 บาท , และเนื้อนวะลงยาจีวรเหลือง-เขียว-ส้ม จำนวนสร้าง 399 เหรียญ ราคาจอง 1,100 บาท เป็นต้น สำหรับผู้ที่สนใจสั่งจองสามารถติดติอสอบถามได้ที่ โก๋ สุรินทร์ ที่เบอร์โทร 061-0703559

อย่างไรก็ตามหลังจากทำพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ก็ได้มีการแจกเหรียญ จำนวน 4,000 เหรียญ ให้กับผู้ที่มาร่วมพิธี มีบรรดาลูกศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่เฮง ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย มารอรับกันแน่นมณฑลพิธี ซึ่งแต่ละคนต่างมารอรับคูปองแจกเหรียญกันตั้งแต่เช้า เพื่อความเป็นสิริมงคลส่งท้ายปี พ.ศ.2563

ด้าน ว่าที่ ร.ต.เอกพงศ์ เข็มทอง หรือโก๋ สุรินทร์ เปิดเผยว่า วัตถุมงคลนี้ที่หลวงปู่ท่านได้ดำริให้จัดสร้างขึ้น วัตถุประสงค์เพื่อสร้างกุฏิหลวงปู่หลังใหม่และโรงครัวของวัด ซึ่งเราก็ได้สร้างสำเร็จแล้วในรุ่นเดียว และสร้างพร้อมฉลองในครั้งเดียวกันเลย ซึ่งรุ่นสร้างกุฏิ ก็จะมีแค่รุ่นเดียวเท่านั้น ถือว่าเป็นบุญของศิษยานุศิษย์ทุกท่าน ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ที่ได้มาพัฒนาวัด ให้ศิษยาศิษย์และพี่น้องประชาชนได้เข้ามากราบไหว้ ใช้งบประมาณ 2,399,999 บาท สำหรับเหรียญที่สร้างมีพิมพ์เดียว เป็นพิมพ์น้ำเต้ารายเซ็นต์ จะมีเอกลักษณ์คือเป็นองค์ครึ่งองค์ที่มีความเหมือนหลวงปู่มาก และมีรายเซ็นต์หลวงปู่อยู่ด้านล่างเหรียญ ส่วนด้านหลังสัญลักษณ์เป็นกุฏิหลวงปู่ ซึ่งเหรียญเนื้อทองคำหนึ่งชุด บูชา 8 หมื่นบาท สร้างจำนวน 11 องค์ หนึ่งชุดมี 8 เหรียญ ส่วนลิมิเต็ดมี 2 องค์ เป็นหลังเรียบ

สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 94 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือ ทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย

พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้

ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย.

ภาพ : ข่าว เขมชาติ ชุณหกิจขจร ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม