อุดรฯ ยอดผู้ป่วยเพิ่มรวม 142 ราย พร้อมสั่งดำเนินคดีจัดงานบุญสงกรานต์แห่ต้นเงินเข้าวัด

อุดรฯ ยอดผู้ป่วยเพิ่มรวม 142 ราย พร้อมสั่งดำเนินคดีจัดงานบุญสงกรานต์แห่ต้นเงินเข้าวัด

วันที่ 17 เมษายน 2564 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น 5 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี พ.ญ.ศศินี อภิชนกิจ รอง ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี ฝ่ายปฐมภูมิ พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ของอุดรธานี โดยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย สะสม 142 ราย หายแล้ว 1 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนโรคอีก 15 ราย ผู้ป่วยรักษาที่ อ.เมือง 115 ราย รพ.อุดรธานี109 ราย รพ.กรุงเทพฯ 5 ราย รพ.ค่ายประจักษ์ 1 ราย ,อ.หนองแสง อ.เพ็ญ 5 ราย ,อ.หนองหาน 4 ราย ,อ.วังสามหมอ 3 ราย ,อ.บ้านผือ อ.สร้างคอม 2 ราย ,อ.กุมภวาปี อ.ศรีธาตุ อ.ไชยวาน อ.ประจักษ์ อ.ทุ่งฝน อ.น้ำโสม อำเภอละ 1 ราย

นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 142 ราย ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงวันนี้ตรวจพบเพิ่ม 10 ราย ยกยอดค้างมาตั้งแต่เมื่อวาน 5 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนอีก 15 ราย ซึ่งมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 369 ราย ตรวจแล้วให้ผลบวก 14 ราย ผลลบ 146 ราย รอผลและติดตาม 209 ราย สถานการณ์ที่อุดรธานีถือว่าเริ่มทรงตัว ในการตรวจหาเชื้อแบ่งเป็นการตรวจหาเชื้อแบบมาตรฐาน PCR และการตรวจเชิงรุกแรบบิทเทส รวมถึงกลุ่มที่สงสัยและมาตรวจที่โรงพยาบาล การตรวจสอบของเราสถิติไม่ได้ลดลงเลย เมื่อวานนี้เราตรวจไปทั้งสิ้น 1,051 ราย พบเชื้อ 12 ราย ที่ตัวเลขการพบเชื้อน้อยลงไม่ได้หมายความว่าเราตรวจน้อยลง แต่บอกถึงสถานการณ์ว่าเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

ในภาพรวมของการระบาดกลุ่มติดเชื้อที่มาจากกรุงเทพ หรือมาจากพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ ลดลงเป็นอย่างมาก ที่พบเพิ่มขึ้นในภายหลังก็จะเป็นรูปแบบเข้ามาในพื้นที่แล้วแต่ยังไม่แสดงอาการหรือยังไม่มาขอรับการตรวจ ซึ่งการระบาดในปัจจุบันจะเป็นรูปแบบการติดเชื้อภายในบ้าน ภายในครอบคัว ภายในสถานที่ทำงาน ต้องขอเน้นย้ำไม่ว่าท่านจะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ หรือไม่เสี่ยงเลย ก็ต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากสถิติก็บอกแล้วว่าการระบาดในขณะนี้ ส่วนมากเกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งนั้น

พ.ญ.ศศินี อภิชนกิจ รอง ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี ฝ่ายปฐมภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยทั้งหมด 142 ราย โดยรวมมีอาการน้อยถึงปานกลาง จะมีให้ออกซิเจน 2 ราย แต่ยังไม่ถึงขั้นใช้เครื่องช่วยหายใจ สำหรับรถตรวจพระราชทานถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับชาวอุดรธานี ซึ่งสามารถเข้ามาแบ่งเบาหน้าที่ของบุคคลากรของโรงพยาบาลได้เป็นอย่างมาก เป็นการเพิ่มจุดตรวจอำนวยการสะดวกให้พี่น้องประชาชน รวมถึงในอนาคตหากจะต้องเข้าไปตรวจในพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ ก็สามารถเดินทางเข้าไปได้พร้อมทีมแพทย์และเครื่องมือ ลดการเดินทาง ลดจุดเสี่ยง ลดการกระจายเชื้อโรค

นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า มาตรการป้องกันต่าง ๆ หากเทียบกันระหว่างมาตรของ ศบค.ใหญ่ และมาตรการของจังหวัด มาตรการไหนที่เข้มกว่ากันก็ให้ยึดใช้มาตรการนั้น และในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายทางจังหวัดจะมีการประชุม ศบค.จ.อุดรธานี ก็จะได้นำหลักการต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ส่วนอื่นเรื่องการจัดงานบุญในพื้นที่และมีภาพออกมาทางโซเชียล เราได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไประงับการจัดงานและสั่งสอบสวนโรคโดยทันที่ รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายก็ได้ให้ทางตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแล้ว ทั้งใน อ.กุดจับ และ อ.โนนสะอาด ซึ่งต้องเรียนว่าไม่ได้ห้ามการทำบุญตามประเพณี แต่หากมีกิจกรรมอื่น มีการรวมตัวที่มากกว่า 50 คน มีการดื่มแอลกอฮอล์ ตรงนี้ต่างหากที่ทำไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีเพจดัง “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Signature” โพสต์ภาพมีผู้รวมกลุ่มจัดงานบุญในพื้นที่ จ.อุดรธานี ระบุข้อความว่า “โควิดมันอันตราย คนที่เหนื่อยจะต้องเหน็ดเหนื่อยอีกเท่าไรถ้ายังไม่เลิกพฤติกรรมการรวมกลุ่ม

จนท.สาธารณะสุขส่งมาให้ดูว่า ทำงานเหน็ดเหนื่อยแต่มาเห็นการรวมกลุ่มแบบนี้แล้วมันเสี่ยงและอันตรายการ เว้นระยะห่างไม่มี พื้นที่ อุดร…บ้านกานต์ อ.กุดจับ จ.อุดร งานที่ผ่านมา ระยะห่างมีกันบ้างไหม โปรดเห็นใจ จนท.สาธารณสุขในพื้นที่ ที่จะต้องเหนื่อยกับการทำงานด้วยเถอะ พอดีผมเป็นคนอุดร แต่คนละอำเภอ เป็นเจ้าหน้าที่ สาธารณสุข ครับ เลยห่วงๆ เพราะมันน่ากลัวครับตอนนี้ ทางนี้ก็สู้กับ โควิด19 ต่อไปครับ”

เรื่องดังกล่าว พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ชี้แจงว่า จากกรณีที่บ้านกาน ต.ปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ได้จัดงานประเพณีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งต้นเงินแล้วนำไปบริจาคให้กับวัดประจำหมู่บ้าน ซึ่งมีประชาชนชาวบ้านกลางจัดให้มีรถแห่จำนวน 2 คัน ซึ่งวันแรกได้จัดในวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งกับผู้จัดว่าเป็นการจัดกิจกรรมที่ฝ่าฝืนข้อพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 17 ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับ 40,000 บาท นอกจากนั้นยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมควบคุมโรคติดต่อ จ.อุดรธานี ฉบับที่ 16 มีโทษปรับไม่เหิน 20,000 บาท ซึ่งตอนนี้ทาง พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้สั่งการให้ผู้กำกับ สภ.กุดจับ รวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้จัดกิจกรรม และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมต่อไป

นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ได้ไปร่วมกิจกรรมวันนั้น ตอนนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปคัดกรองผู้ที่ไปร่วมงานแล้ว 60 คน ซึ่งเป็นประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้าน โดยนายอำเภอ และทางโรงพยาบาลกุดจับได้มีการดำเนินการในเชิงรุกล่วงหน้าว่าจะมีชาวบ้านไปแพร่เชื้อในกิจกรรมนั้นไหม เพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อในหมู่บ้านจากกิจกรรมนี้.

ภาพ-ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม