ร้องสื่อ อบต.หันคาจัดงบประมาณ 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท จัดซื้อจัดจ้างรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิง,การปรับปรุงผิวจราจรลูกรังเกรงผิดระเบียบ
วันที่ 8 พ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนาย พ.แหล่งข่าวคนหนึ่ง พร้อม พวก ว่าที่ อบต.หันคา จังหวัดชัยนาท ได้จัดงบประมาณ 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท จัดซื้อจัดจ้างรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิง,การปรับปรุงผิวจราจรลูกรัง เกรงว่าการจัดงบประมาณดังกล่าวจะไม่โปร่งใส จึงได้นำเอกสารหลักฐาน ยื่นต่อ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยนาท จำนวน 2 เรื่อง คือการจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบอเนกประสงค์ ตัวรถชนิด 10 ล้อ บรรทุกน้ำได้ 12,000 ลิตร โดยกำหนดราคากลาง 5 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงผิวจราจรลูกรังและขุดลอกคลองระบายน้ำ จำนวน 7 โครงการ โครงการละ 4 แสนกว่าบาท งบประมาณ 3 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องขอแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลหรือข้อเท็จจริง ตามมาตรา 134 แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 เนื่องจากอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อยับยั้งโครางการที่ดำเนินการไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล
ซึ่งโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถบรรทุกรถน้ำดังกล่าวนี้ มีผู้ยื่นข้อเสนอและเสนอราคา จำนวน 3 ราย และผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและเสนอราคาต่ำสุด คือบริษัท มาสเตอร์ เทค วีควิป เมนท์ จำกัด เสนอราคา 4,979,900 บาท ซึ่งภายในวันเดียวกันนั้น ได้มีประกาศจาก อบต.หันคา เรื่อง ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ประกวดซื้อรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงอเนกประสงค์ คือบริษัทฯที่เสนอราคาต่ำสุด และ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ทางนายกฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำหนังสือเรียกบริษัทฯที่ประกวดราคาได้มาทำสัญญา แต่เท่าที่ทราบข่าวภายในว่าโครงการดังกล่าวยังไม่มีเงินงบประมาณเพียงพอ และในเอกสารการประกวดราคาก็กำหนดไว้ว่า จะทำสัญญาได้ก็ต่อเมื่อมีงบประมาณ แต่ นายกฯ ยืนยันที่จะให้ดำเนินการต่อไป และต่อมาในวันที่ 9 เมษายน64 ได้มีการเสนอหนังสือ ที่ ชน 75201 ไม่ลงวันที่ แต่ลงเดือนเมษายน 2564 เรื่อง เรียกให้มาทำสัญญาซื้อขาย เรียนถึง บริษัท มาสเตอร์ เทค วีควิป เมนท์ จำกัด ท้ายหนังสือระบุว่าออกจากสำนักงานปลัด แต่ผู้เซ็นชื่อเป็นผู้ร่างและพิมพ์ ซึ่งเป็นรายเซ็นของ เจ้าหน้าที่ อบต.คนหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นลูกจ้างประจำแต่เพียงผู้เดียว โดยที่รักษาการปลัด อบต.ฯไม่ได้ยินยอมลงนามแต่อย่างใด และพบว่า นายกฯ ได้มีการลงนามในหนังสือที่ ชน 75201/156 ในวันที่ 22 เมษายน 2564 เรื่องเรียกให้มาทำสัญญาซื้อขาย เรียนถึง บริษัท มาสเตอร์ เทค วีควิป เมนท์ จำกัด โดยที่รักษาการปลัด อบต.ฯไม่ได้ลงนามผ่านหนังสือแต่อย่างใด
ทางด้านนาย พ. ยังกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 ทาง นายกฯ ได้เปิดประชุมสภา สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1/2564 เพื่อขอใช้เงินทุนสำรองเงินสะสม เพื่อจัดทำโครงการปรับปรุงผิวจราจรลูกรังและขุดลอกคลองระบายน้ำ จำนวน 7 โครงการ โครงการละ 4 แสนกว่าบาท งบประมาณ 3 ล้านบาท โดยอ้างว่าเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนให้กับประชาชน จนในที่สุดสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหันคา ได้มีมติเห็นชอบ อนุมัติให้ใช้เงินทุนสำรองเงินสะสม เพื่อจัดทำโครงการดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 ได้มีการเสนอประกาศองค์การบริหารส่วนตำบลหันคา ลงวันที่ 17 มีนาคม 2564 เรื่อง ประกาศราคากลางจ้างโครงการปรับปรุงผิวจราจรลูกรังและขุดคลองระบายน้ำฯจำนวน 7 โครงการ โครงการละ 4 แสนกว่าบาท ผ่านการเห็นควรว่าจะจัดจ้างโดยวิธีใด หากจะดำเนินการจัดจ้างควรต้องใช้วิธีประกวดราคา โดยรวมโครงการประเภทงานเดียวกัน ได้แก่ โครงการปรับปรุงผิวจราจรลูกรัง เนื่องจากมีแหล่งงบประมาณเดียวกันและจะจัดจ้างในห้วงเวลาเดียวกัน แต่ไม่มีการทักท้วงจากเจ้าหน้าที่ และมีลงนามในประกาศ โดยไม่มีข้อทักท้วง เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันประกวดราคา ซึ่งเรื่องนี้เท่าที่มีรายงานข่าวรู้ว่ามีข้าราชการหลายคนใน อบต.ไม่ลงนามในประกาศราคากลาง
อย่างไรก็ตามการกระทำดังกล่าวโครงการดังกล่าวทั้ง 2 โครงการอาจไม่ถูกต้อง ซึ่งการร้องเรียนของตนเองและพี่น้องประชาชนชาวอำเภอหันคา ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ปปช.จังหวัดชัยนาท สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดชัยนาท และผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เรื่องดังกล่าวให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสรุปหาข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อความกระจ่างต่อพี่น้องประชาชน ที่เสียภาษีและต้องการให้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ตนเสียภาษีลงไปนำไปใช้จ่ายและพัฒนาตำบลหันคาให้คุ้มค่าที่สุด จึงขอฝากเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
ทางด้านนายปัญญา ไทยรัตนกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหันคา เปิดเผยว่า กรณีมีคนร้องเรียนโครงการปรับปรุงผิวจราจรลูกรังและขุดลอกคลองระบายน้ำ จำนวน 7 โครงการ โครงการละ 4 แสนกว่าบาท งบประมาณ 3 ล้านบาท เป็นโครงการเร่งด่วนเนื่องจากใกล้ฤดูฝนเพราะประชาชนต้องใช้ถนนสัญจรผ่านเส้นทางนี้ โดยในพื้นที่มีทั้งหมด 9 หมู่บ้าน ซึ่งก็ได้มีการออกไปประชาคมถามความต้องการ จึงต้องค่อยๆทำไปทีละเส้น โดยการใช้อำนาจของสภาจ่ายขาดเงินกองทุนสำรองเพื่อมาบริหารจัดการให้ครบจำนวน 9 หมู่บ้านที่ได้รับประโยชน์ ในการขนสินค้าการเกษตร และได้ขุดลอกคลองกักเก็บน้ำเพื่อให้เกษตรกรได้นำน้ำมาใช้ในการทำนา ในส่วนของดินลูกรังก็ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้
ในส่วนรถดับเพลิงอเนกประสงค์ ได้มีตั้งข้อบัญญัติติไว้ตั้งแต่ปี 2563 และนำมาใช้ในปี 2564 ซึ่งทุกอย่างมีการผ่านสภา เหตุผลที่ต้องซื้อเพราะในพื้นที่เป็นพื้นที่แล้งซ้ำซาก อีกทั้งรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบอเนกประสงค์ ตัวรถชนิด 10 ล้อ บรรทุกน้ำได้ 12,000 ลิตร ยังสามารถนำน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนได้ ทั้งนี้ตนได้ปรึกษาหารือกับ ผู้อำนวยการกองคลังแล้วเกี่ยวกับงบประมาณโดยเหลืออยู่ประมาณ 7 ล้าน ซึ่งก็เพียงพอในการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะหลังจากทำสัญญาไปแล้วอีก 90 วัน บริษัทที่ประมูลได้ก็จะนำรถน้ำมาส่งให้กับ อบต.หากหน่วยงานไหนค่อยใจสามารถที่จะตรวจสอบได้ ซึ่งเดิมที่ทาง อบต.มีรถน้ำดับเพลิงความจุ 4,000 ลิตร หากนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนก็ได้เพียง 1 หมู่เท่านั้น ในส่วนหลายฝ่ายกลัวว่าเงินจะไม่มีจ่ายให้กับบริษัทผู้รับเหมา อาจมีการฟ้องร้องกันตามหลังนั้น ซึ่งหากเป็นจริงทาง อบต ก็มีการกันเหลื่อมเงินข้ามปี โดยทาง อบต.ได้มีการทำประชาคม และเป็นสิ่งที่ประชาชนอยากได้มากที่สุดในเวลานี้ ในส่วนกลัวว่าจะมีการล็อคสเปกนั้น ในส่วนเรื่องของพัสดุในการจัดซื้อจัดจ้างที่ใดที่เป็นประโยชน์ต่อทางรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรต้องเลือกรถที่ดี มีศูนย์ให้บริการที่จังหวัด หากไปได้รถจีนมาจะไปเข้าศูนย์ที่ไหนได้ ซึ่งทาง อบต ก็ได้มีการระบุยี่ห้อ อีซูซุ ยี่ห้อฮีโน หรือมิตซู เราสามารถซื้อได้ ในส่วนการตั้งกรรมการตรวจสอบทำไม่เอาจากหน่วยงานของ อบจ มาช่วย ซึ่งทาง อบต มีการแต่งตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่พัสดุ ปรึกษาไปที่ lสำนักงาน.สตง จังหวัดชัยนาท โดยก็บอกว่าเราสามารถตั้งคณะกรรมการได้เลย รวมไปถึงสเปก ไม่ว่าจะเป็นการดูดน้ำกี่วินาที ได้น้ำกี่ลูกบาศก์เมตร รวมไปถึงสเปกที่รัฐการได้ประโยชน์ เหตุผลที่จัดซื้อ 12,000 ลิตร เพราะทาง อบต มี 9 หมู่บ้าน ซึ่งรถดับเพลิงอเนกประสงค์สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เดิมที่เราไปขอยืมจากหน่วยอื่นมาก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก จึงได้จัดซื้อไว้เป็นของ อบต เอง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่มีประเด็นร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม เรื่องของร้านอาหารและเพลนปูน ไม่มีการขออนุญาตและเสียภาษีนั้น ตนขอตอบว่า ร้านอาหารตอนนี้ได้ปิดทำการไปแล้วและก่อนหน้านี้ก็มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเพลนปูน ไม่ใช้เป็นของตน แต่เป็นของลูกชาย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการจ่ายภาษีปกติอยู่แล้ว ซึ่งตนก็ชี้แจงได้หมดทุกประเด็นที่ถูกร้อง
ด้านว่าที่ร้อยตรีสมคิด ชะเต ผู้อำนวยกองคลัง อบต.หันคา เปิดเผยว่า การจัดซื้อจัดจ้าง รถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบอเนกประสงค์และโครงการปรับปรุงผิวจราจรลูกรังและขุดลอกคลองระบายน้ำ ทั้ง 2 โครง มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ทางกองคลังมีงบเพียงพอและโครงการทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ผิดระเบียบ พ.ร.บ.ท้องถิ่นหรือไม่ ซึ่งทาง ผอ.กองคลังชี้แจ้งว่าสามารถดำเนินการได้ทั้ง 2 โครงการ และกองคลังมีเงินเพียงพอ พร้อมทั้งไม่ผิดระเบียบ ของท้องถิ่นแต่ประการใดและโครงการจัดซื้อจัดจ้างลงหินคลุกลูกรังทั้ง 9 หมู่บ้าน ทาง อบต.และกรรมการมีการควบคุมการทำงานของผู้รับเหมาเป็นไปตามสัญญาว่าจ้างทุกประการ หากผู้ใกสงสัย สามารถตรวจสอบความหนา ความกว้าง ของโครงการดังกล่าวได้ ผอ.กองคลังกล่าวกับผู้สื่อข่าวท้ายสุด.
ภาพ-ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา
