โควิดเริ่มคลี่คลาย! ไทย-กัมพูชาหารือเตรียมเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เพื่อกระตุ้นการค้าและการท่องเที่ยว

ศรีสะเกษ-รอง ผวจ.ไทย-กัมพูชาจับมือหารือเตรียมเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เพื่อกระตุ้นการค้าและการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมหน่วยประสานงานชายแดนไทย – กัมพูชาประจำพื้นที่ 1 ใกล้กับจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย หน.ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับ นายลึม ซกโต รอง ผวจ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วยคณะฝ่ายกัมพูชา เข้าร่วมในการประชุมพิจารณาความพร้อมในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ โดยตัวแทนทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการพิจารณาหารือกันเกี่ยวกับมาตรการและหลักเกณฑ์ในการเดินทางเข้า- ออกของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อให้การเตรียมการเปิดด่านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีการปรับแนวทางต่าง ๆให้สามารถที่จะใช้เป็นแนวปฏิบัติร่วมกันได้ จากนั้น จะได้นำเอาผลการประชุมพิจารณานี้ไปรายงานให้หน่วยเหนือของทั้ง 2 ฝ่ายได้รับทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยมี นางสุวรรณา วรรณศรี นายอำเภอภูสิงห์ ให้การต้อนรับและร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกในการประชุมครั้งนี้

นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า ให้สำรวจความพร้อมในการเปิดจุดผ่านแดน เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีมติแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมการเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำระดับจังหวัด พร้อมทั้งมอบหมายให้นายอำเภอภูสิงห์ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์/ประธานคณะทำงานช่องทางด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศฯช่องสะงำ ได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ด่านของทั้ง 2ประเทศ และหารือแนวทางมาตรการในการเตรียมความพร้อมหากจะมีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจในการรองรับการเปิดประเทศ

นายสำรวย กล่าวต่อไปว่า จากการประเมินของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ ได้พิจารณาความเหมาะสมเพื่อประกอบการพิจารณาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เห็นว่ามีความพร้อมและเหมาะสมที่จะดำเนินการได้ โดยได้มีการพิจารณาความพร้อมในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ของทั้ง2 ฝ่าย เช่น การผ่อนปรนการบริการด้านการแพทย์/การรักษา การผ่อนปรนการแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภค บริโภค การผ่อนปรนด้านการท่องเที่ยว ประเด็นด้านการศึกษา/นักศึกษา เป็นต้น

นายลึม ซกโต รอง ผวจ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่านล่ามว่า การประชุมในวันนี้เป็นการเตรียมเบื้องต้นในการที่จะพิจารณาเปิดช่องสะงำ ซึ่งการประชุมในวันนี้จะเกี่ยวกับด้านนักท่องเที่ยวพ่อค้าแม่ค้า และนักศึกษา เป็นการจดทะเบียนและทำอะไรต่างๆเกี่ยวกับการข้ามแดน จากการปรึกษาหารือกันทางฝ่ายไทยก็ได้ขอนำเรื่องที่ทางฝ่ายกัมพูชาเสนอมา เพื่อเสนอไปทางกระทรวงมหาดไทยของไทยได้ทราบเพื่อพิจารณาการปลดปล่อยเงื่อนไขบางประการ หลังจากการที่ได้ประชุมปรึกษาหารือนี้แล้ว เราก็จะรอรับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยของไทยเพื่อจะได้ร่วมกันเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งในการที่จะเปิดช่องสะงำได้เร็วเพียงใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของฝั่งไทย ในส่วนของฝ่ายกัมพูชาจะได้รายงานไปให้หน่วยเหนือได้รับทราบ หลังจากนั้นหน่วยเหนือจะได้มีการพิจารณาสั่งการลงมายัง จ.อุดรมีชัยเพื่อที่จะได้นำไปหารือและร่วมมือกันกับฝ่ายไทยต่อไป ตามข้อเท็จจริงแล้ว สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชามีหลักการที่จะเปิดประเทศแล้ว หลังจากที่กัมพูชามีความสำเร็จในการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
โควิด-19 ให้กับประชาชนชาวกัมพูชาทั้งประเทศเรียบร้อยแล้ว เราจึงได้เตรียมที่จะเปิดด่านชายแดน โดยขณะนี้กัมพูชาได้เปิดประเทศแล้ว และพร้อมที่จะเปิดจุดผ่านแดนถาวรกัมพูชา–ไทยช่องสะงำ เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศต่อไป.

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม