อดีตสหาย ผกค. ยันหนุนใช้ ม.112 โต้ UN อย่าจุ้น

อดีตสหาย ผกค. ยันหนุนใช้ ม.112 โต้ UN อย่าจุ้น

อดีตสหาย ผกค. ยันหนุนใช้ ม.112 โต้ UN อย่าจุ้น

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ร่วมทำกิจกรรม “ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” กับอดีตสหาย “ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์” หรือ ผกค.ได้เปลี่ยนมาเป็น “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” หรือ ผรท.ในพื้นที่จังหวัดศรีษะเกษ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดมหาสารคาม และ จังหวัดขอนแก่น เพราะที่ผ่านมาทางอดีตสหาย ผกค.ได้ประสานไปทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อแสดงจุดยืนว่าอดีตสหาย ผกค.เก่า ได้พัฒนาตัวเองมาเป็น ผรท. เพื่อต้องการแสดงจุดยืนในการสนับสนุนใช้มาตรา 112 และต้องการให้จัดการกับผู้ที่หวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเด็ดขาด

นายอานนท์ แสนน่าน กล่าวว่า ตนจึงได้รับมอบหมายมาทำกิจกรรมร่วม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอดีตสหายเก่าจาก เขตงาน 203 เขตงาน 207 เขตงาน 222 เขตงาน 333 เขตงาน 555 เขตงาน 666 ตามที่มีคำสั่ง 66/23 ประกาศใช้โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และ อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีการเจรจาให้วางอาวุธปืนมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเพื่อพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน และทางรัฐบาลก็ให้การเยียวยาดูแลการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชนอดีตสหายเก่ามาอย่างต่อเนื่อง ใต้ร่มโพธิสมภารของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่รัชกาลที่ 9 จนมาถึงรัชกาลที่ 10 ทรงเป็นประมุขของประเทศ ทรงปกครองประชาชนและแผ่นดินไทยให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา ทรงเป็นมิ่งขวัญและเป็นศูนย์รวมความสามัคคีของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ซึ่งในขณะนี้มีกลุ่มบุคคลไปร้องเรียนองค์การสหประชาชาติ (UN) ให้สนับสนุนการยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นการชักศึกเข้าบ้าน และมองว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้กำลังนำมาตรา 112 มาเล่นการเมือง เพื่อสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง เราจำเป็นต้องออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และสนับสนุนการใช้มาตรา 112 และฝากเตือนไปทาง UN ที่บอกว่าเห็นใจเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 นั้นอย่าไปหลงเชื่อพวกใส่ร้ายป้ายสีพระมหากษัตริย์ไทยมาก และที่สำคัญเป็นเรื่องภายในประเทศอย่ามาจุ้นจ้านมาก UN ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ของคนไทยที่จงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์

นายอนุรักษ์ แสนเวียง หรือ “สหายน่าน” ประธานกรรมการ ผรท.ภาคอีสาน ได้กล่าวว่า วันนี้พวกเราอดีตสหาย ผกค.เก่า ได้ออกมารวมกันแสดงพลังจุดยืนเพื่อต่อสู้และปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ที่ถูกกลุ่มนักการเมือง พรรคการเมือง และกลุ่มนักศึกษาที่มีความเห็นต่าง จาบจ้วงคิดจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวและเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน 20 จังหวัด ในครั้งนี้เพราะทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหาบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ที่มีคุณูปการหาที่สุดมิได้กับกลุ่ม ผรท.จึงจำเป็นต้องออกมาต่อต้านผู้ที่คิดไม่ดีต่อสถาบันหลัก เพื่อปกป้องยอมสละชีวิต เพื่อให้ชาติไทยอยู่ตลอดไปชั่วนิจนิรันดร์ มิให้ใครมาทำลาย พร้อมทั้งได้ตั้งขบวนเดินรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนชาวอดีตสหาย ผกค.และประชาชนผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมรวมตัวกันออกมาประณามกลุ่มที่จาบจ้วงหวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

ด้าน นายสุพล หมื่นศรีพรม หรือ “สหายธวัชชัย” ประธานกลุ่ม ผรท.รักสันติ ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาการต่อสู้ของอดีตสหายผกค.ออกมาเรียกร้องให้ความเสมอภาคต่อประชาชนโดยประชาชนอยู่ดีกินดีเท่านั้น และที่สำคัญเราออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและกลุ่มอดีตสหายเองก็มีความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ไม่เคยคิดจะจาบจ้วงหรือหวังล้มล้างสถาบันแต่อย่างใด แต่มาวันนี้พวกเราเห็นพฤติกรรมของลูกหลานกระทำแล้วเหยียดหยามหัวใจของประชาชนอย่างมาก อยากจะบอกว่า บรรพบุรุษของเราแม้แต่อดีตสหาย ผกค.และประชาชนรุ่นหลังที่พวกเรายอมเสียเลือดเนื้อเพื่อปกป้องสถาบันหลักนั่นคือชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ ในการต่อสู้พวกเราจะจงรักภักดีเป็นอย่างมาก ขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับพวกจาบจ้วงและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างรวดเร็วและให้ถึงที่สุด.

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม