EEC เข้า...การ.บุกรุกที่ดินคืบหนัก

EEC เข้า…การ.บุกรุกที่ดินคืบหนัก.ที่ดินแพงลิ่ว จับกระแส… ที่ดิน กับป่าไม้

 “จับกระแส…การบุกรุกที่ดินสาธารณะ ที่ดินผืนป่า ที่ดินภูเขา  ที่ดินทรงสงวน ในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี “

หลังจากที่ ได้มีมติคณะรัฐมนตรี ประกาศจัดตั้ง “โครงการระเบียงเศรษฐกิจ ภาคตะวันออก (EEC)”เป็นศูนย์รวม การคมนาคม ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ   มองเห็นภาพ และจับต้องได้ ว่ากระแสความเจริญรุ่งเรืองทุกมิติ เข้าถึงแน่นอน โดยเฉพาะ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง  เพราะเป็นพื้นที่ตั้งหลัก ของสนามบิน ท่าเรือพาณิชย์  สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง

ถ้าโฟกัสในเรื่อง ที่ดินที่ใช้สอย พื้นที่ประกอบธุรกิจ ของนายทุนต่าง ๆ เหลือน้อยลง มีนายทุนมากว้านซื้อ ไว้ในราคาถูก  รอขายในราคาแพง  ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาที่ดินติดกับถนนดำ สาย 331 สาย 332 ราคาหลักล้านต้น ๆ ตอนนี้ดีดตัวขึ้นถึงไร่ละ 10 ล้านบาท  ชนิดจับต้องกันยาก  ถ้าไม่ใช่ธุรกิจขนาดใหญ่ สายป่านยาว  แต่ก็ต้องศึกษา และระมัดระหวังให้มากในการซื้อที่ดิน เพราะดินเมืองสัตหีบ ชลบุรี ไม่เหมือนที่ดินทั่ว ๆ ไป 

ในปัจจุบัน  นักธุรกิจมากมายที่มาซื้อที่ดินในเขตสัตหีบ เพื่อประกอบธุรกิจท่องเที่ยว สนามกอล์ฟ  จนเป็นเรื่องที่ประชาชนสงสัยว่า ออกเอกสารสิทธิ์กันได้อย่างไร ด้วยวิธีใด ทั้งที่หลายแห่งไม่สามารถดำเนินกิจการแบบนี้ได้  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคู ครอง  ลำลาง ช่องทางระบายน้ำ ธรรมชาติ ที่ถูกถม  ถูกปรับเป็นผืนเดียวกัน  พื้นที่ริมภูเขาก็ถูกขุดออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ตัวเอง ทั้งที่มีกฎหมายกำหนดชัดเจน แล้วอนุญาต ปล่อยให้ดำเนินการกันได้อย่างไร

ขณะนี้เห็นได้ชัดเจนว่า พื้นที่อำเภอสัตหีบ และใกล้เคียง มีการบุกรุกป่า ภูเขา ที่สาธารณะกันอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะที่ดินภูเขา เนินเขา ริมภูเขา เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศ สร้างรีสอร์ท  โฮมสเตย์  ชาวบ้านตาดำ ๆ ธรรมดาคงทำไม่ได้  ถ้าไม่ใช่คนที่มีอิทธิพล มีบารมี มียศ มีสี มีเงิน  ที่สำคัญยังสามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้อีกด้วย ทั้งที่บุคคลเหล่านี้ไม่ได้มีภูมิลำเนาเกิดในพื้นที่นี้   ไม่ได้ครอบครอง ใช้สิทธิทำมาหากินมาก่อนเลย

ไม่ว่าจะมีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ หรือจับกุม  โอกาสแรกก็จะเจอคำว่า มี สค.1 มี นส.3 มีโฉนดที่ดิน ทั้งๆ ที่ ที่ดินแปลงนี้อยู่บนภูเขา อยู่บนที่สูง อยู่ในพื้นที่ป่า  สุดท้ายก็ต้องทำเรื่องให้ที่ทำการที่ดิน ประจำอำเภอตรวจสอบ มารังวัดใหม่ …ประเด็นสำคัญ มีน้อยมากที่หน่วยงานภาครัฐด้วยกัน จะมีการเสนอขัดแย้ง ว่าเอกสารสิทธิ์ที่ได้มาโดยมิชอบ ต้องพิจารณา ตรวจสอบในทุกด้าน  เพื่อถอดถอนเอกสารสิทธิ์ ที่ดินที่ไม่ถูกต้อง

นับแต่นี้ไป ในอำเภอสัตหีบ  ภาครัฐจะต้องเข้มแข็ง ตรวจสอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รับผิดชอบ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับที่ดินให้เพิ่มความเข้ม ความถูกต้อง ให้มากขึ้นกว่านี้ มิฉะนั้น การบุกรุกที่ดิน การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จะมากขึ้นตามมา เพราะแผ่นดินทองในขณะนี้ คือ อำเภอสัตหีบ ถ้าหน่วยงานภาครัฐทุจริต รู้เห็นเป็นใจกับนายทุน นักธุรกิจ  ธรรมชาติที่งดงามจะเหือดหาย  ภูเขา ป่า จะมีแต่สิ่งปลูกสร้างแน่นอน

   “ อินทรีย์  บูรพา “

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม