คณะอนุกรรมการ กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค เร่งคดีบริษัทประกันภัยไม่ยอมจ่ายเงินเครมประกันไฟไหม้โรงแรมบางกอก ล้อฟท์

วันที่ 2 มีนาคม ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ N 405 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ คณะอนุกรรมาธิการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของนายสุวิทย์ วนรัตนชัย กรรมการ บริษัท พีระไมตรี จำกัด หรือ เจ้าของโรงแรม บางกอก ล้อฟท์ หลังจากยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ นาย มานะ โลหะวณิชย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย และ ประธานกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับกรณีการเกิดเพลิงไหม้เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 29 มีนาคม 2564 ที่โรงแรม บางกอก ล้อฟท์ นานประมาณ 3 ชั่วโมง ทำให้ทรัพย์สินภายในโรงแรมเกิดความเสียหายมากมาย จึงได้แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบ พร้อมทั้งตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่ากว่า 51 ล้านบาท

ต่อมาได้มีการประสานงานกับทางบริษัทประกันภัยตลอดมา จนกระทั่งเดือนเมษายน 2565 ได้มีการแจ้งตัวเลขความเสียหายอีกครั้งหนึ่งว่าความเสียหายเกิดขึ้นประมาณ 42 ล้านบาท จึงได้ตอบตกลงในเรื่องความเสียหาย โดยทางตัวแทนบริษัทประกันภัยแจ้งว่าจะเสนอเรื่องให้บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) จ่ายค่าความเสียหายทั้งหมด 42 ล้านบาท จึงได้มีการสอบถามในเรื่องค่าความเสียหายมาโดยตลอด จนกระทั่งผ่านมาประมาณ 1 ปี ก็ยังไม่ได้รับค่าชดเชย ที่สำคัญยังแจ้งยอดค่าชดเชยความเสียหายต่ำลงมาอีกเหลือ 16 ล้านบาท เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทประกันภัยดังกล่าว

ต่อมาทางอนุกรรมาธิการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร จึงได้เร่งพิจารณาคดีการเกิดไฟไหม้โรงแรมดังกล่าวและยังไม่ได้เงินเครมประกันภัย โดยให้นายสุวิทย์ วนรัตนชัย กรรมการ บริษัท พีระไมตรี จำกัด หรือ โรงแรม บางกอก ล้อฟท์ มาสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงมีข้อสรุปว่าโรงแรมดังกล่าวเกิดเพลิงไหม้จริง และเกิดจากอุบัติเหตุ แต่ปัญหาที่พบคือ บริษัทประกันภัยพยายามที่จะถ่วงเวลาในการจ่ายเบี้ยประกันภัยให้กับผู้เอาประกัน และต้องมีการพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเอาผิดกับทางบริษัทประกันภัยดังกล่าว

หลังจากนั้น นาย จิตติพจน์ วิริยะโรจน์ รองประธานอนุกรรมาธิการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นและมาร้องเรียนในครั้งนี้ สาเหตุมาจากบริษัทประกันภัยพยายามหาลูกค้าและสัญญาว่าจะพยายามจ่ายค่าเสียหายอย่างเต็มที่ แต่เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นและมีการเครมประกัน ก็จะไม่จ่ายตามมูลค่าความเสียหายที่เป็นจริงที่ผู้เอาประกันควรได้รับ จึงใช้วิธีการต่อรองหรือถ่วงเวลาให้ช้า ซึ่งวิธีดังกล่าวได้รับการร้องเรียนมาที่กรรมาธิการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรอย่างมากมาย แต่ทางคณะกรรมาธิการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร สามารถช่วยเหลือผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ประกอบกับวาระสภาผู้แทนราษฎรเหลือน้อย จึงพยายามจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพราะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงที่สามารถให้คุณให้โทษอีกทางหนึ่ง เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการจ่ายเงินประกันภัยที่เกิดไฟไหม้โรงแรมในครั้งนี้

ภาพ/ข่าว นภชนก (เมย์) เหมือนนามอญ 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม