ศรีสะเกษ-แม่ค้าไก่ทอดถูกรางวัลที่ 1 แต่มีการแอบอ้างทางสื่อโซเชี่ยลว่าจะแจกเงินแค่พิมพ์คำว่ายินดีด้วยเตือนอย่าหลงเชื่อ
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 3 บ้านโคกวัด ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้มีญาติพี่น้องพากันไปแสดงความยินดีกับ นางทองพูน เพ็งแจ่ม อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายไก่ทอดข้าวเหนียวโชคดีถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดที่ 6 ชุดที่ 35 หมายเลข 944308 จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 6 ล้านบาท โดยนางทองพูน ได้นำเอาล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 มาให้ญาติพี่น้องได้ชื่นชมยินดีด้วย และเล่าว่า ตนฝันว่ามีคนเอาเนื้อก้อนใหญ่มาให้ พอช่วงบ่ายของวันที่ 1 ก.พ. 65 มีแม่ค้านำเอาล็อตเตอรี่มาเร่ขายที่บ้าน ตนจึงได้ซื้อเลขที่ตนชอบคือเลขท้าย 38 และเลขท้ายอื่น ๆ อีกรวมจำนวน 13 ใบ พอช่วงเย็นวันเดียวกันมีการประกาศผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลปรากฏว่า ตนถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ ทำให้ตนดีใจมาก เงินรางวัลที่จะได้รับมากนี้ ตนจะนำเอาเงินไปใช้หนี้สินที่มีอยู่ จากนั้นจะแบ่งให้ลูกจำนวน 4 คน เป็นชาย 3 คนหญิง 1 คนส่วนที่เหลือจะนำเอาไปทำบุญ
ต่อมา ได้มี น.ส.ศิริพร กอแก้ว อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ต.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นหลานสาวโทรศัพท์มาแจ้งให้ นางทองพูน ทราบว่า มีการนำเอารูปภาพของนางทองพูนที่โชว์ล็อตเตอรี่ถูกรางวัลที่ 1 ไปลงในเพจแห่งหนึ่ง โดยมีข้อความว่า วันนี้แม่ถูกหวย (6)ล้านหมายเลข (944308) จำนวน (1)ใบ ถูกรางวัลที่ (1) จะแจกเงิน (6000 บาท) จำนน 40 ท้าน แค่คุณพิมยินดีด้วย ขึ้นสีส้มมารับเงิน (6000บาท) จำนวน (40ท่านมารับเงินได้ที่ไลน์นี่ได้เลย :line ID ::@282gmzprn… และมีรูปภาพของนางทองพูน ประกอบข้อความบรรยบายภาพด้วย โดยจากการญาติพี่น้องของนางทองพูนได้ตรวจดูชื่อเพจแล้ว มีภาษาลักษณะคล้ายกับภาษาต่างประเทศ มีการนำเอาหญิงสาวหน้าตาดีมาขึ้นโปรไฟล์ โดยนางทองพูน ได้นำเอาไปให้สามีและญาติพี่น้องทุกคนได้ดูด้วย เพื่อรับทราบเรื่องนี้ร่วมกันด้วย
นางทองพูน เพ็งแจ่ม อายุ 49 ปี แม่ค้าไก่ทอดผู้โชคดีกล่าวว่า ตนขอยืนยันว่า ไม่เคยบอกว่าจะแจกเงินตามที่มีการแอบอ้างแต่อย่างใด เงินรางวัล จำนวน 6 ล้านบาทที่จะได้รับมา ตนจะนำเอาไปใช้หนี้ แบ่งให้ลูก 4 คนและทำบุญ ไม่ได้มีความคิดว่าจะนำเอาเงินไปแจกจ่ายให้ใครอย่างเด็ดขาด ตนขอฝากถึงผู้ที่นำข้อความอันเป็นเท็จไปโพสต์ทางสื่อโซเชี่ยลนี้ว่า ขอให้ยกเลิกการกระทำด่วน หากไม่หยุดการกระทำนี้ทำให้ตนได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจะหารือกับครอบครัวญาติพี่น้องเพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ภาพ-ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ
