“ควีน คิงดอม” ปรับแผนธุรกิจครั้งใหม่จากผู้นำเข้าศิลปินต่างประเทศ

“ควีน คิงดอม” ปรับแผนธุรกิจครั้งใหม่จากผู้นำเข้าศิลปินต่างประเทศ สู่การนำศิลปินไทยออกนอกประเทศเพื่อตีตลาดเอเชีย

“ควีน คิงดอม” ปรับแผนธุรกิจครั้งใหม่จากผู้นำเข้าศิลปินต่างประเทศ สู่การนำศิลปินไทยออกนอกประเทศเพื่อตีตลาดเอเชีย

กรุงเทพ/นางสาวจันจิรา ฐิติชญานุวัฒน์ นักธุรกิจสาวรุ่นใหม่ไฟแรง บอสใหญ่แห่งควีน คิงดอม ผู้ซึ่งเป็นทั้งผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท ควีน คิงดอม จำกัด กล่าวถึง การประสบความสำเร็จในการนำทัพพาศิลปินไทยระดับซุปเปอร์สตาร์ของประเทศที่ไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขา เช่น มาริโอ้ เมาเร่อ รวมถึงคู่รักซุปตาร์ ณเดชน์ คูกิมิยะ-ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ เพื่อเตรียมบินลัดฟ้าไปพบปะกับเหล่าแฟนคลับของพวกเขาที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในงาน “แฟนมีตติ้ง” อย่างเป็นทางการ เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของเหล่าศิลปินในการจัดงานแฟนมีตติ้งที่ต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ และได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆของประเทศฟิลิปปินส์

นางสาวจันจิรา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยจัดงานคอนเสิร์ตของศิลปินเกาหลีใต้มาก่อนเมื่อปี 2018 โดยในตอนนั้นได้คว้าศิลปินเกาหลีใต้ชื่อดังอย่างไอยู (IU) นักร้อง-นักแสดง ผู้มากความสามารถและผู้เป็นที่รักของเหล่าบรรดาแฟนเคป็อปทั่วโลก มาเปิดคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่ประเทศไทย ซึ่งในครั้งนั้นนอกจากจะเป็นคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 10 ปี ของไอยูแล้ว ยังถือเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกของไอยูในประเทศไทยอีกด้วย เรียกได้ว่างานนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก บัตรคอนเสิร์ตสองพันกว่าใบจำหน่ายหมดเกลี้ยงก่อนวันงานแสดง งานจบไปพร้อมกับความประทับใจต่อทั้งแฟนคลับ ผู้จัดและศิลปินเราไม่ได้หยุดจัดงานแสดงของศิลปินเกาหลีใต้ เพียงแต่เราพักเพื่อรอจังหวะที่ดีในการกลับไปลงตลาดอีกครั้ง

บอลใหญ่จากควีนคิงดอม กล่าวอีกว่า ส่วนจุดเริ่มต้นของการเปิดตลาดนำทัพพาศิลปินไทยออกแสดงนอกประเทศ เพราะเราเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ ประกอบกับสิ่งที่เราเคยทำมาตั้งแต่สองปีก่อนกับงานบันเทิงเกาหลีใต้ในไทย เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมศิลปินเกาหลีใต้ถึงมีชื่อเสียงในไทยมากมายหลายคน แล้วศิลปินไทย มีใครที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศบ้างไหม จากนั้นเราได้เริ่มค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็ปรากฎว่าพบข้อมูลของศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงในประเทศจีนอยู่ 7-8 คน จากนั้นเราจึงเริ่มปั้นโปรเจคงานแสดง นั่นก็คืองานแฟนมีตติ้ง แล้วก็เริ่มติดต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายของเรานั่นคือบรรดาผู้จัดงานในพื้นที่แต่ละเมือง โดยเน้นไปที่หัวเมืองใหญ่ๆ ในจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น กว่างโจว รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า นี่คือจุดเริ่มต้น ซึ่งผลตอบรับดีมาก จึงได้แพลนว่าในปี 2020 หลังตรุษจีนเราได้เซ็นสัญญาแน่นอนกับโปรเจคงานแฟนมีตติ้ง 6 เมือง แต่ปรากฏว่าเกิดโรคระบาดไวรัสโคโรน่าในจีนขึ้นช่วงนั้นพอดี เราเลยจำเป็นต้องเลื่อนการเซ็นสัญญากับที่จีนออกไปก่อนแบบไม่มีกำหนด จึงหันมาศึกษาข้อมมูลว่าในประเทศกลุ่มอาเซียนและปรากฏว่า ศิลปินไทยเป็นที่รู้จักในหมู่ประชาชนมากจึงได้เริ่มทำโปรเจ็คนี้ แต่ทำสัญญากับประเทศฟิลิปปินส์ได้เพียงประเทศเดียวก็เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้ทั้ง 2 งาน คือ งานของมาริโอ้และงานของณเดชน์-ญาญ่า เราก็ได้รับผลกระทบในการจัดงาน เพราะเดิมวันแสดงของงานณเดชน์-ญาญ่าคือช่วงปลายเดือนเมษายน และวันแสดงของงานมาริโอ้คือช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2020 เราก็ต้องเลื่อนวันจัดแสดงออกไปแล้วเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เลย ส่วนงานของณเดชน์-ญาญ่า ยังคงไม่ได้กำหนดวันแสดงใหม่ที่ชัดเจนแต่คาดว่าน่าจะเป็นปี 2021 เช่นกัน

จัดงานแสดงใดๆ ก็ตามภายใต้นโยบาย social distancing ต่อให้รัฐบาลจะอนุญาตให้เราสามารถจัดงานแสดงได้เเล้วแต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของการเว้นระยะห่างทางสังคมเช่นนี้ มันเป็นการยากมากที่เราจะประสบความสำเร็จในการควบคุมต้นทุนและสร้างกำไรในการทำงาน แต่สำหรับโปรเจคการนำศิลปินไทยออกไปแสดงที่ต่างประเทศนั้น เรามีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่อยากจะให้วงการบันเทิงของเมืองไทยได้เจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นเราแพลนไว้ว่าอยากจะตีตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยขยับระดับสู่ตลาดเอเชีย และหวังว่าเราจะสามารถนำศิลปินไทยขึ้นสู่เวทีตลาดโลกได้ต่อไปในอนาคตธุรกิจของควีน คิงดอม จะเป็นเช่นไรต่อไปในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้

“สำหรับงานอีเว้นท์เราจำเป็นต้องพักไว้ก่อนจริงๆ มันไม่ง่ายเลยที่เราจะจัดงานแสดงใดๆ ก็ตามภายใต้นโยบาย social distancing ต่อให้รัฐบาลจะอนุญาตให้เราสามารถจัดงานแสดงได้เเล้วแต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของการเว้นระยะห่างทางสังคมเช่นนี้ มันเป็นการยากมากที่เราจะประสบความสำเร็จในการควบคุมต้นทุนและสร้างกำไรในการทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม เรามีการแตกไลน์ธุรกิจของเราในหลายหมวดหมู่ของสายงานบันเทิง ซึ่งจริงๆ แล้วเราได้แพลนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เราตั้งใจไว้ว่าจะค่อยๆ เริ่มทำ และตอนนี้เราได้เริ่มทำมันแล้วแต่แค่ยังไม่ได้มีการประกาศหรือเปิดตัวอย่างเป็นทางการใดๆ ด้วยความที่สถานการณ์โลกเรากำลังอยู่ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ ทำให้เราทำอะไรก็ไม่สะดวกเท่าไหร่เหมือนในช่วงสถานการณ์ปกติ ดังนั้นตอนนี้เราจึงขอเก็บรายละเอียดของโครงการธุรกิจใหม่ๆ ไว้ก่อน หากทุกอย่างพร้อมและลงตัวเมื่อใดเราคงได้เปิดตัวไลน์ธุรกิจใหม่ของควีน คิงดอม ในเวลาที่เหมาะสม”

“และสำหรับโปรเจคการนำศิลปินไทยออกไปแสดงที่ต่างประเทศนั้น เรามีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่อยากจะให้วงการบันเทิงของเมืองไทยได้เจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นเราแพลนไว้ว่าอยากจะตีตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยขยับระดับสู่ตลาดเอเชีย และหวังว่าเราจะสามารถนำศิลปินไทยขึ้นสู่เวทีตลาดโลกได้ต่อไปในอนาคต เราพร้อมที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมบันเทิงไทยเพื่อยกระดับและผลักดันให้เป็นที่รู้จักต่อชาวโลก รวมถึงยังมีแพลนว่าอยากนำเรื่องนี้เสนอต่อรัฐบาลหรือกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้ร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมบันเทิงไทย เพราะหากประสบความสำเร็จ นอกจากจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศอีกด้วย ขอให้ดูอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้เป็นตัวอย่าง” บอสควีน คิงดอม ผู้บริหารสาวรุ่นใหม่ คิดใหญ่ ไฟแรง ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้

จักรกฤษณ์ แววคล้ายหงษ์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บก.สื่อออนไลน์ชลนิวส์ทีวีออนไลน์ นภชนก เหมือนนามอญ ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ สื่อมวลชน พร้อมผู้นำท้องถิ่น บริษัท ห้างร้าน ร่วมแสดงความยินดีกันเพียบ

บก.สื่อออนไลน์ชลนิวส์ทีวีออนไลน์ นภชนก เหมือนนามอญ ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ สื่อมวลชน พร้อมผู้นำท้องถิ่น บริษัท ห้างร้าน ร่วมแสดงความยินดีกันเพียบ

Read More »

ประธานกรรมการสมาคมการค้าไทย-เหลียวหนิง เป็นตัวแทนร้องเรียนต่อ ที่ปรึกษาคณะกรรมธิการคุ้มครองผู้บริโภค

ประธานกรรมการสมาคมการค้าไทย-เหลียวหนิง เป็นตัวแทนร้องเรียนต่อ ที่ปรึกษาคณะกรรมธิการคุ้มครองผู้บริโภค

Read More »

ข่าวยอดนิยม