รองประธานคณะอนุกรรมการฯ ชี้รัฐบาลควรมองประชาชนเป็นผู้บริโภค จะได้รับการดูแลที่ดีขึ้น อยากให้ดูแลประชาชนแบบยั่งยืน

วันที่ 14 มีนาคม นายจิตติพจน์ วิริยะโจจน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองประธานคณะอนุกรรมการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยว่ารัฐบาลควรมองประชาชนเป็นผู้บริโภค ที่สำคัญต้องให้บริการที่ดีที่สุด ไม่ว่าเป็นในเรื่องการศึกษา การเดินทางในเรื่องคมนาคม การเงินการธนาคาร โดยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน ที่ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อประชาชนได้รับบริการที่ดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จะทำให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรือง ที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง

ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้มองประชาชนผู้บริโภค แต่มองว่าประชาชนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา กฎหมาย กติกา หรือนโยบายต่างๆ ที่ออกมาเหมือนกับผู้ใหญ่ทำกับเด็ก หรือผู้บังคับบัญชาทำกับผู้ใต้บังคับบัญชา นอกจากนี้การช่วยเหลือประชาชนเหมือนกับการแจกเงินออกไป ก็เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่ง แต่เป็นระยะสั้นๆ แต่ระยะยาวไม่สามารถแก้ไขปัญหาประชาชนได้อย่างเด็ดขาด เพราะการให้เงิน 300, 700, 1,000 หรือ 3,000 บาท ซึ่งการให้แบบนี้ใช้ไปก็หมด ไม่ได้แก้ไขปัญหาอย่างถาวร แต่หากทำให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ที่ดี มีค่าแรงต่อวันเพิ่มมากขึ้น อาทิ 600 บาทต่อวัน หรือเดือนละ 25,000 บาท ประชาชนหางานง่าย วิธีนี้จะแก้ไขปัญหาของประเทศไทยได้เด็ดขาดกว่า

อีกเรื่องคือภาษีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง รัฐบาลคิดจากด้านบนแล้วมาบังคับใช้ด้านล่าง โดยไม่ดูสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ ช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์โควิด ทำให้ประชาชนได้รับความลำบากยากขึ้นไปอีก เพราะการแพร่ระบาดของโรคทำให้ธุรกิจปิดตัวอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านขายของชำ โรงงาน ร้านอาหาร ทำให้ทุกคนไม่มีรายได้ แต่โครงสร้างของผู้ประกอบธุรกิจ ถึงแม้จะไม่ประกอบการ แต่ก็ต้องเสียภาษี ทั้งที่นโยบายเรื่องภาษีไม่ควรนำมาใช้ จึงเป็นความผิดพลาดของรัฐบาล จึงอยากให้รัฐบาลมามองว่าประชาชนถือว่าเป็นผู้บริโภคคนหนึ่ง เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ควรที่จะนำมาพิจารณาและหาทางออกให้กับประชาชน ก็จะทำให้เศรษฐกิจ สังคมดีขึ้น

ภาพ/ข่าว นภชนก (เมย์) เหมือนนามอญ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม