เชียงใหม่-บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีเชียงใหม่ ช่วยชาวสวนลำไย จัดงบกว่า 1 แสนบาท ซื้อลำไยสด 3.5 ตัน ในราคาสูงกว่าท้องตลาด หวังดึงราคา กระจายผลผลิตช่วยชาวสวน หลังราคาลำไยร่วงหนัก เหตุวิกฤตโควิด 19 ทำส่งออกลำไยไปจีนชะงัก
เชียงใหม่-บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีเชียงใหม่ ช่วยชาวสวนลำไย จัดงบกว่า 1 แสนบาท ซื้อลำไยสด 3.5 ตัน ในราคาสูงกว่าท้องตลาด หวังดึงราคา กระจายผลผลิตช่วยชาวสวน หลังราคาลำไยร่วงหนัก เหตุวิกฤตโควิด 19 ทำส่งออกลำไยไปจีนชะงัก เกษตรกรชาวสวนลำไย ในตำบลหนองตอง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นำลำไยสดบรรจุกล่องใส่หลังรถกระบะ มายังจุดรับซื้อที่เทศบาลตำบลหนองตองพัฒนา ซึ่ง บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีเชียงใหม่ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เปิดจุดรับซื้อเพื่อรวบรวมลำไยส่งไปยังผู้สั่งซื้อในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ
การเข้ามารับซื้อลำไยจากเกษตรโดยตรงครั้งนี้ เพื่อช่วยพยุงราคาลำไยที่ตำต่ำลงอยากมาก โดยลำไย มัดปุ๊กอยู่ที่ กิโลกรัมละ 20 -22 บาท ส่วนลำไยร่วง เกรดเอเอ เหลือกิโลกรัมละ 17 บาท เกรดเอ กิโลกรัมละ 8 บาท และเกรดบี กิโลกรัมละ 4.50 บาท
นายจรัล สุนันต๊ะ อายุ 52 ปี เกษตรกรชาวสวนลำไย บอกว่า สาเหตุที่่่ราคาลำไยตกต่ำลงอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถส่งออกไปประเทศจีนได้ เพราะผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 นอกจากนี้ผลผลิตส่วนใหญ่ยังได้รับความเสียหายจากปัญหาภัยแล้ง และสภาพอากาศ ทำให้ลำไยที่ออกมามีลูกเล็ก และแตกเน่าไปจำนวนมาก จนชาวสวนเก็บไม่ทันต้องปล่อยให้ลำไยเน่าคาต้น
โดยราคาลำไยที่เกษตรกรรับได้ไม่ขาดทุน ลำไยมัดปุ๊กควรอยู่ที่ กิโลกรัมละ 25 – 30 บาทขึ้นไป ส่วนลำไยร่วงเกรดเอเอ อยู่ที่กิโลกรัมละ 20-25 บาท เกรดเอ กิโลกรัมละ 15 – 17 บาท เกรดบี กิโลกรัมละ 10 – 12 บาท ส่วนเกรดซี กิโลกรัมละ 1 บาท ก็อยู่ได้
ส่วนการที่ประชารัฐรักสามัคคีฯ เข้ามาช่วยรับซื้อลำไยโดยตรจากเกษตรกร นายจรัล บอกว่า เป็นสิ่งที่ดีช่วยดึกราคาลำไยให้สูงขึ้น เพราะหากเกษตรกรนำลำไยไปขายที่ล้งก็ถูกกดราคา และบางครั้งก็หยุดลำไยโดยอ้างว่าลำไยเต็มแล้ว
ด้านนายณรงค์ คองประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีเชียงใหม่ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด กล่าวว่า บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีเชียงใหม่ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาลตำบลหนองตองพัฒนา จัดโครงการ “ลำไยเชียงใหม่” เพื่อยกระดับผลผลิตและรายได้สู่ชุมชน รวมทั้งดึงราคาลำไยให้สูงขึ้น โดยบริษัทฯเข้ามารับซื้อสูงกว่าราคาในท้องตลาดประมาณ 20 เปอร์เซนต์ หรือกิโลกรัมละ 20 – 22 บาท เพื่อดึงให้ราคาลำไยสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรรับได้ไม่ขาดทุน
ขณะที่วันนี้บริษัทฯได้เข้ามารับซื้อลำไยทั้งหมด 3.5 ตันจากเกษตรกร ใช้งบประมาณราว 1 แสนบาท เพื่อกระจายให้ลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะจัดงบประมาณมารับซื้อลำไยจากเกษตรกรโดยตรงอีกไม่ต่ำกว่า 3 – 5 แสนบาท ขึ้นกับช่วงเวลาที่ผลผลิตออกสู่ตลาด คุณภาพของลำไย และความพร้อมของเกษตรกรในการรวบรวมลำไยคุณภาพมาขายให้บริษัทฯ
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ปีนี้การส่งออกลำไยไปประเทศจีนหยุดชะงัก เพราะผลกระทบจากวิกฤตโควิด 19 จนทำให้ราคาลำไยตกต่ำลง บริษัทฯ จึงวางแผนเน้นขายลำไยสดภายในประเทศเป็นหลัก และส่งตรงถึงลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ที่บริษัทฯได้หาตลาดไว้ ทั้งผู้ซื้อรายใหญ่ และรายย่อย ทั่วประเทศ
กรรณิกา วชิรโสภาพรรณ
