ชาวสวนลำไย หวั่นทิ้งเน่า

ชาวสวนลำไย หวั่นทิ้งเน่า หวังเห็น”แสงสว่างปลายอุโมงค์”วอน ศบค.อนุมัตินำเข้าแรงงานเร่งด่วน

ชาวสวนลำไย หวั่นทิ้งเน่า หวังเห็น”แสงสว่างปลายอุโมงค์”วอน ศบค.อนุมัตินำเข้าแรงงานเร่งด่วน

พิษโควิด 19 ยังส่อเค้าวุ่น สวนลำไย อำเภอสอยดาว อำเภอโป่งน้ำร้อน จันทบุรี เริ่มระส่ำระสาย หวั่นผลผลิตทิ้งเน่าคาสวน เหตุขาดแรงงานนับหมื่น ความหวังยังมืดมน วอนรัฐบาลส่งส่งสัญญาณดี ให้ชาวสวน และล้งลำไย ได้เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ด่วน


ขณะนี้ในจังหวัดจันทบุรี คงไม่มีเรื่องไหนที่เล่าร้อน เท่ากับกระแสการขาดแคลนแรงงานเก็บผลผลิตลำใยในอำเภอสอยดาว และอำเภอโป่งน้ำร้อน ถ้ารัฐบาลอนุมัติ นำเข้าแรงงานได้ทันเวลา เก็บเกี่ยวผลผลิตก็สามารถทำรายได้เข้าประเทศเกือบหมื่นล้านบาท แต่ไม่เห็นชอบ หรืออนุมัติล่าช้า ชาวสวนก็ต้องน้ำตาตก สูญเสียต้นทุน และผลกำไร นั่นหมายถึงการสิ้นเนื้อประดาตัว อย่างปฏิเสธไม่ได้

ไม่ผิดอะไร กับโดน “เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด” เพราะหลังจากการปิดด่านถาวร และด่านผ่อนปรนทั่วประเทศ ยาวนานเกือบ 5 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน มีนาคม 2563 เป็นต้นมา ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจในภาพรวมจังหวัดจันทบุรี ทรุดหนัก โดยเฉพาะการค้าชายแดน ได้หยุดชะงักลง ความหวังของชาวจันทบุรี ก็คงมีเพียงการการรอความหวังให้รัฐบาลอนุมัตินำแรงงานเข้าประเทศ เพื่อ เก็บผลผลิตของลำไย ที่จะสามารถพยุงเศรษฐกิจภาพรวมไปได้บ้างไม่มากก็น้อย

ทางด้าน ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา จ.จันทบุรี กล่าวว่า พ่อเมืองจังหวัดจันทบุรี หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องปัญหาของภาคการเกษตร ได้รีบเร่งประชุม หารือ หาทางออก และจัดระบบ การคัดครอง กักตัว ให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติของรัฐบาล ในเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19

ซึ่งตอนนี้ได้นำเสนอไปยัง ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา หรือ ศบค. พร้อมยืนยันว่า จังหวัดจันทบุรี มีศักยภาพในการควบคุม ดูแล แรงงานที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านได้ อย่างเป็นระบบ และอยู่ในระเบียบอย่างแน่นอน รอเพียงการอนุมัติให้มีการนำเข้าแรงงานเท่านั้น เพราะขณะนี้ล้งลำใย จำนวน 99 ล้ง มีความพร้อมในการรองรับแรงงานเรียบร้อยแล้ว


และกล่าวอีกว่า ถ้ายังไม่มีการอนุมัติให้เปิดด่านถาวรทั่งประเทศ ความบอบช้ำ ระทมทุกข์ของประชาชนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น “เหมือนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด” โดยเฉพาะประชาชนระดับรากหญ้า พ่อค้า แม่ค้า ตลาดการค้าชายแดนที่เคยมีรายได้เลี้ยงครอบครัวก็ไม่สามารถค้าขายได้ นับแต่ปิดชายแดนความเสียหายในด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านรวมแล้วหลายหมื่นล้านบาท หากรัฐบาลยังคงไม่มีการอนุมุติให้เปิดด่านการค้า และไม่อนุมัติให้มีการนำแรงงานเข้าประเทศความเสียหายจะต้องเกิดขึ้นกับชาวสวนลำไยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะขณะนี้ประเทศจีนไม่ค่อยมีผลผลิตเกี่ยวกับผลไม้มากนัก

จึงรอรับซื้อลำไย จากประเทศไทย เข้าไปจำหน่ายในประเทศจีน และประเทศเวียดนาม เรื่องการนำเข้าแรงงาน ถ้าไม่อนุมัติ จะส่งผลกระทบชาวสวนเ แต่ยังลุกลามไปถึงล้งลำไย ต่าง ๆ ใน อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน ที่ได้จ่ายเงินล่วงหน้าในการเหมาสวนลำใย ไว้บางส่วนแล้
ท้ายสุดได้ให้ข้อคิดเห็นด้วยว่า การปิดด่านชายแดนทางด้าน จ.จันทบุรี และทั่วประเทศ น่าจะเพียงพอกับกาลเวลาแล้วแล้ว เพราะขณะนี้ประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด 2 – 3 เดือนแล้ว ถ้าเปิดด่านการค้าถาวรด้านชายแดนจะทำให้คนระดับรากหญ้ามีงานทำ มีรายได้หล่อเลี้ยงชีวิต และครอบครัว จึงขอวอนรัฐบาลได้โปรดเมตตา สงสาร ประชาชน และชาวเกษตรสวนลำไย รีบอนุมัติเปิดด่านให้นำเข้าแรงงานโดยด่วน


“มังกร บูรพา “ รายงาน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม