สุดเซ็ง ปลูกกัญชาไว้ 2 ต้นเพื่อใช้ต้มเป็นยากินรักษาโรค จนอาการดีขึ้น ถูกตำรวจและฝ่ายปกครองบุกจับดำเนินคดี

สุดเซ็ง ปลูกกัญชาไว้ 2 ต้นเพื่อใช้ต้มเป็นยากินรักษาโรค จนอาการดีขึ้น ถูกตำรวจและฝ่ายปกครองบุกจับดำเนินคดี

สุดเซ็ง ปลูกกัญชาไว้ 2 ต้นเพื่อใช้ต้มเป็นยากินรักษาโรค จนอาการดีขึ้น ถูกตำรวจและฝ่ายปกครองบุกจับดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีชาวบ้าน บ้านเชียงใหม่ หมู่ที่ 1 ตำบลเชียงใหม่ อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง บุกจับกุม พร้อมต้นกัญชาจำนวน 2 ต้น ในข้อหา ตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ (ประเภท 5) พ.ศ. 2522 ทั้งๆที่ปลูกไว้เพื่อต้มเป็นยารักษาอาการป่วย ของผู้ป่วยติดเตียง หลังได้รับรายงาน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่สถานีตำรวจภูธรเชียงใหม่ ตำบลเชียงใหม่ อำเภอโพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด

โดยพบเจ้าหน้าที่ กำลังควบคุมตัวนายไพโรจน์ ทิพย์บุญชู อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 1 บ้านเชียงใหม่  ตำบลเชียงใหม่ อำเภอโพธิ์ชัย  จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบุตรเขยของ นายทองบ่อ  กมลวิบูลย์ อายุ 79 ปี  อาศัยในบ้านดังกล่าว และเป็นคนปลูก คนดูแลต้นกัญชา จำนวน 2 ต้น สูงต้นละประมาณ 2 เมตรที่ปลูกไว้ในสวนครัวข้างบ้านพร้อมถอนต้นกัญชาของกลาง เพื่อสอบสวนและดำเนินคดี

ทั้งนี้ พันตำรวจโท ทรงศักดิ์ บุญไทย สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรเชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนดำเนินการจับกุมเราได้รับ การประสานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอโพธิ์ชัย ว่าพบผู้ลักลอบปลูกกัญชาในพื้นที่ และขอกำลังสนับสนุนเพื่อไปตรวจค้น  ก่อนจะพบต้นกัญชาจำนวน 2 ต้น สอบถามนายไพโรจน์ ให้การรับสารภาพ จึงคุมตัวดำเนินคดีและส่งฟ้องศาลตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้จะปลูกไว้เพื่อต้มเป็นยารักษาผู้ป่วยจริงหรือไม่นั้น เรายังไม่ได้สอบไปถึง แต่ในเมื่อมีการร้องเรียนหรือขอกำลัง เราก็ต้องปฏิบัติไปตามหน้าที่ หากเราไม่ปฏิบัติตามก็จะถือเป็นการละเว้น

ทั้งนี้ นายทองบ่อ กมลวิบูลย์ อายุ 79 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทำการรักษาโรคความดัน โรคเบาหวาน โรคเบื่ออาหารและโรคอื่นๆ ร่างกายอ่อนเพลียตลอดเวลา ตนได้พบแพทย์พยาบาลหลายโรงพยาบาลหลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลประจำอำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ตนได้เข้าไปทำการเยียวยารักษาโรคมาโดยตลอด แต่อาการก็ได้แค่พอบรรเทาไม่หายขาดจากโรคร้ายที่เป็นเรื้อรังมาหลายปี 

ต่อมาผู้ป่วยได้นำใบกัญชาแห้งจากผู้ป่วยรายอื่นให้มารักษาโรค  โดยผู้ป่วยได้นำมาใส่กาต้มน้ำร้อน และนำมาดื่มกินรักษาอาการเจ็บป่วยนั้น ซึ่งก็สามารถที่จะบรรเทาการเจ็บป่วยได้ดีตามลำดับ และสามารถลุกขึ้นรับประทานอาหารได้ดี พอได้เดินไปมาพอได้ดูแลบุตรหลานได้ เนื่องจากคนในครอบครับต้องไปทำมาหากินหาเลี้ยงครอบครัว

จนกระทั่งวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นบริเวณบ้านพัก และพบต้นกัญชาดังกล่าว ในเวลานั้นนายทองบ่อ กมลวิบูลย์ ไม่สามารถที่จะขึ้นลุกจากเตียงได้ จึงได้มอบหมายให้นายไพโรจน์ ทิพบุญชู  ซึ่งเป็นบุตรเขยของตน  เข้าพบกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มาตรวจค้น ซึ่งพบต้นกัญชา โดยเจ้าหน้าที่ได้ถามนายไพโรจน์ฯ บุตรเขยตนว่า ว่าใครเป็นคนปลูกกัญชา ซึ่งนายไพโรน์ ได้ยอมรับแทนว่าตนเองเป็นคนปลูก เจ้าหน้าได้จับกุมตัวทันที

นายทองบ่อ กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่บุกจับกุมลูกเขยตนในครั้งนี้ ตนรู้สึกโกรธที่เจ้าหน้าที่มาทำแบบนี้ เพราะเราปลูกไว้เป็นยารักษาอาการป่วยเท่านั้น แต่เมื่อเจ้าหน้าที่จับไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรก็ได้แต่เสียใจบ้าง และอยากขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ ให้พิจารณาผู้ที่ป่วยเอามาใช้เป็นยา ซึ่งกรณีดังกล่าวมีคนอื่นในหมู่บ้าน มีการปลูกกัญชาไว้หลายหลัง หลังละต้นสองต้น ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ไปจับ รวมแล้วน่าจะได้เป็น1 คันรถบรรทุก  และตนปลูกไว้เพื่อรักษาโรค ไม่ได้นำมาสูบ ไม่ได้ปกปิดอะไร ปลูกไว้ในสวนครัว ถ้านำไปปลูกไว้ไกลก็จะถูกคนขโมยเอาไป

ด้านนายสมร ทิพย์บุญชู ญาติของผู้ต้องหา ได้กล่าวว่า ข้อเท็จจริง ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ทำตามกฎหมายเป็นการถูกต้องแล้ว ข้อกฎหมายยังต้องพึ่งศีลธรรม ความเมตตา  ความเป็นคนไทย  ยังพอมีอยู่ในเวลานี้ เจ้าหน้าบ้านเมืองในเวลานี้ควรคิดถึงความเมตตาธรรมคำนึงถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งอยู่ในฐานะยากจนสุดด้วยสภาวะสถานการณ์โลกเป็นแบบนี้  ได้ปลูกกัญชาจำนวน 2 ต้น เพื่อรักษาตนเองไม่ได้ปลูกไว้เพื่อจำหน่ายจ่ายแจก เพราะอาการเจ็บป่วยเป็นมาระยะเวลายาวนาน พอใช้สมุนไพรกัญชาแทนยาแผนปัจจุบัน ทำให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปหาหมอ ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งเจ้าหน้าที่น่าจะมองมุมนั้นมากกว่า และควรจะใช้ศีลธรรม ความเมตตา ดูตามสภาพความเป็นอยู่ผู้ป่วยด้วย





ภาพ/ข่าว วินัย วงศ์วีระขันธ์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ร้อยเอ็ด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม