“วราวุธ รมว.ทส.” สั่งกรมทะเลฯ เดินหน้าลุยตรวจยึดป่าชายเลนพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง ทวงคืนพื้นที่กลับคืนมาเพิ่มกว่า 337 ไร่
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สนธิกำลังเดินหน้าตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าชายเลนตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าและฟื้นฟูป่าไม้ทั่วประเทศให้กลับคืนมาสู่สภาพสมบูรณ์ ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งตรวจสอบผืนป่าทั่วประเทศ หากพบการบุกรุกยึดคืนทั้งหมด ไม่ต้องเกรงกลุ่มนายทุนหรืออิทธิพล ทุกอย่างดำเนินการอย่างยุติธรรมและโปร่งใสเป็นสำคัญ
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) ได้มอบหมายให้นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาราชการแทนรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นประธานเปิดปฏิบัติการตรวจยึด “เพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน” พร้อมด้วยนายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นำเจ้าหน้าที่กรม ทช. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด หน่วยป้องกันรักษาป่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว ตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลนภายใต้ “โครงการแผนปฏิบัติการพลิกฟื้นผืนป่าชายเลนจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง รวม 12 จุด เนื้อที่กว่า 337 ไร่
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ผืนป่าประเทศไทยในปัจจุบันมีประมาณ 102.49 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 31.68 ของพื้นที่ประเทศ ซึ่งถือว่าไม่มากนัก โดยเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ พื้นที่ป่าไม้จะต้องเพิ่มเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ หรือ 129.41 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ ร้อยละ 25 และพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ ร้อยละ 15 พื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มจาก 1.53 ล้านไร่ เป็น 1.58 ล้านไร่ อีกทั้ง พื้นที่ปลูกและฟื้นฟูป่าต้นน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้กำหนดขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นตัวเลขที่เป็นไปได้ทั้งสิ้น เพียงแต่เราต้องทำงานกันอย่างหนักและจริงจัง การเพิ่มผืนป่าทำได้ทั้งการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม และการยึดคืนพื้นที่บุกรุกเพื่อนำกลับมาพลิกฟื้นคืนความสมบูรณ์อีกครั้ง ดังนั้น ตนได้สั่งการให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบ และตรวจสอบผืนป่าทั่วประเทศ หากพบมีการบุกรุก ให้ดำเนินการตรวจยึดทันที ไม่ต้องเกรงกลัวว่าเป็นของกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลใดๆ ผิดก็คือผิด แต่หากพื้นที่ใดยังไม่ชัดเจนต้องดำเนินการตรวจสอบด้วยความยุติธรรม โปร่งใส และชัดเจน ในวันนี้ (10 ก.ย. 63) ตนจึงได้มอบหมายให้อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง ไปเปิดปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ จากนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ และวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ ให้กลับฟื้นคืนสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ดังเดิม ต่อไป ”
ด้านนายอภิชัย เอกวนากุล รักษาราชการแทนรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยภายหลังจากเป็นประธานปล่อยแถวปฏิบัติการเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนว่า สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ดำเนินการภายใต้แผน “ปฏิบัติการเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน” ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยนำทีมสนธิกำลังทั้งสิ้น 12 จุด เนื้อที่รวมกว่า 337 ไร่ แบ่งออกเป็นท้องที่ตำบลตะกาดเง้า และตำบลสีพยา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี จำนวน 9 จุด รวมเนื้อที่กว่า 266 ไร่ และท้องที่ตำบลเนินฆ้อ ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง จำนวน 3 จุด รวมเนื้อที่กว่า 71 ไร่ ภายหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบพบมีนายทุนเข้าบุกรุกครอบครองทำนากุ้ง อยู่ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ และวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนคลองบางกะจะ และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนประแส และป่าพังราด ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หากพบตัวผู้กระทำผิดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจยึดและแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายสำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่กำชับให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบและรัดกุม
สุดท้าย ตนขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติงานและเป็นกำลังใจให้ปฏิบัติงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อีกทั้งขอฝากถึงพี่น้องประชาชนที่พบเห็นการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน หรือการกระทำใดที่ผิดกฎหมายทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้แจ้งมาที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ในทุกช่องทาง ตนจะเร่งรัดตรวจสอบและดำเนินการในทันที และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า ตนจะดำเนินการทุกอย่างบนพื้นฐานความถูกต้องตามกฎหมาย ยุติธรรม และโปร่งใส “นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาราชการแทนรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวยืนยันในที่สุด”
สมเศียร โชติสนิท ผู้สื่อข่าวจังหวัดจันทบุรี
