ทหารพราน ที่36 สนธิกำลังร่วม ปกครอง ป่าไม้ ตชด.337 ลาดตระเวนเฝ้าระวังเส้นทางธรรมชาติ สกัดกั้นแรงงานต่างด้าว หากพบจะดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม
พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่36 ค่ายเทพสิงห์ เปิดเผยว่า ในห้วงที่ผ่านมาหลังมีการสั่งปิดจุดผ่อนปรนในพื้นที่ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้ กองร้อยทหารพราน 36 ในพื้นที่รับผิดชอบแต่ละจุดสนธิกำลัง ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.แม่สะเรียง / อ.สบเมย / อ.ขุนยวม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 337 ดำเนินการลาดตระเวนเฝ้าตรวจเส้นทางตามแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติทั้งทางบกและทางน้ำ ตลอดแนวชายแดนบ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง และแนวริมฝั่งสาละวิน บ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ,สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ช่องทางห้วยต้นนุ่น ม.4 ต.แม่เงา อ.ขุนยวม เพื่อป้องกันบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นพาหะนำเชื้อโควิด -19 เข้ามาสู่ประเทศไทย สกัดกั้นการลักลอบค้าอาวุธสงคราม / ยาเสพติด /สิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ทั้งป้องปรามกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดและการตัดไม้ทำลายป่า
โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกคำสั่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่อง การระงับการเดินทาง เข้า – ออกของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนการค้า ระงับการใช้ช่องทาง ณ จุดผ่านแดน 3 ช่องทาง ได้แก่ จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางห้วยต้นนุ่น หมู่ที่ 4 ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านแม่สามแลบ หมู่ที่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านห้วยผึ้ง หมู่ที่ 3 ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมขยายเวลากำหนดการระงับการใช้ช่องทาง เพิ่มเติม ตั้งแต่ 17 – 30 กันยายน 2563 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และมติคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 เรื่องหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาการเปิด –ระงับหรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ยังมีการแพร่ระบาดต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ไม่ให้แพร่ระบาดเข้ามาภายในประเทศ
นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินของจังหวัดและพัฒนาแผนเผชิญเหตุ รองรับหากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดในระดับพื้นที่ขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ระดับอำเภอและหมู่บ้านชายแดนของแต่ละอำเภอโดยต้องคงเป้าหมายร่วมกัน คือหยุดการแพร่ระบาดในระดับพื้นที่ให้ได้โดยเร็วที่สุด ด้วยมาตรการค้นหา พิสูจน์ทราบ จำกัดและควบคุมโรค และส่งรักษาทันที ควบคู่กับการสื่อสารให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจถึงพัฒนาการของสถานการณ์และมีส่วนร่วมกันเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากพบการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้ดำเนินตามมาตรการทางกฎหมายและการควบคุมโรคที่กำหนดอย่างจริงจัง โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม