รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไฮคิว

รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไฮคิว ผิดกฎหมายเกลื่อนแผ่นดิน วอนรัฐบาลแก้ไขปัญหาด่วน

 รถตู้คอนเทนเนอร์สูงผิดกฎหมายวิ่งเกลื่อนเมือง สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี  วอนรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา พ.ร.บ.ควบคุมความสูงรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไฮคิว สู่ความสูง  2.90  เมตร หมดอุปสรรค ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ  สู่มาตรฐานสากลเท่าเทียมนานาประเทศ

 ปัญหาเรื่องรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไฮคิว หรือรถตู้เย็นบรรทุกสินค้า ที่ผู้ประกอบการขนส่งส่วนมากนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย พบว่ามีความสูงเกิดกฎหมายกำหนด เนื่องจากในปัจจุบัน ประเทศผู้ผลิตตู้คอนเทนเนอร์ไฮคิวได้ผลิตตู้ความสูง 2.90 เมตร มาใช้ในการขนส่งสินค้าภายในประเทศ และขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ สามารถบรรทุกสินค้าได้ปริมาณมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการได้ลดต้นทุน เพิ่มรายได้  ไม่ล้าสมัย ส่งผลให้การขนส่งสินค้าของไทยสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  แต่ปัญหาอุปสรรค ข้อขัดข้องของประเทศไทยที่ยังไม่ปรับเปลี่ยน กฎกระทรวงฉบับที่ 19 (พ.ศ.2550) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 กำหนดว่า กรณีที่เป็นรถบรรทุกตู้สำหรับบรรจุสิ่งของ ให้บรรทุกสูงได้ไม่เกิน 4.20 เมตร จากพื้นทาง ส่งผลให้รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไฮคิวความสูง 2.90 เมตร ที่ใช้ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้ายังผิดกฎหมายทั้งหมด ถ้ารัฐบาลไม่เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนก็จะตกอยู่กับผู้ประกอบการ และทำให้ระบบการขนส่งสินค้าไม่สามารถต่อสู้กับต่างประเทศได้อย่างแน่นอน

 นายนพพร บุญเรือน อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี กล่าวว่า ปัญหาใหญ่มากสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ไฮคิว ที่มีความสูงเกินกฎหมายกำหนด มักจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และปรับในข้อหาความสูงเกินกำหนด ก่อให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง เสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุอันควร  เรื่องนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหามานานกว่า 10 ปี ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าจะออกมาในทิศทางใด  ในเบื้องต้นวอนให้กระทรวงคมนาคม และภาครัฐที่เกี่ยวข้องออกประกาศแจ้งให้หน่วยงานรับผิดชอบกฎหมายจราจรทั้งหมดทราบว่า เรื่องรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความสูง 2.90 เมตร กำลังอยู่ในการพิจารณาแก้ไขข้อกฎหมาย ขอให้หน่วยงานทีดูแลเรื่องกฎหมายการจราจรผ่อนผันไปก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการจนกว่าจะมีประกาศแก้ไขพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ ก็จะสามารถเป็นขวัญ กำลังใจให้ผู้ประกอบการ ได้บรรเทาความเดือดร้อน อีกทั้งยังได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ อีกด้วย

และยังได้กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันได้มีผลวิจัย และการตรวจสอบ พบว่าการขนส่งสินค้าทางทะเลด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ มีปริมาณสูงถึงร้อยละ 95 เพราะสามารถบรรทุกสินค้าได้จำนวนมาก ค่าใช้จ่ายในการขนส่งมีราคาไม่แพง มีความปลอดภัยสูง และสินค้าที่นำเข้า ส่งออกของประเทศไทย มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ  จากสถิติ พ.ศ.2560 จำนวน 9,735,582 ทีอียู  พ.ศ.2561 จำนวน 10,157,163 ทีอียู และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี จะเห็นได้ชัดเจนว่าขณะนี้บริษัทสายการเดินเรือ ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศประมาณร้อยละ 90 แต่กฎหมายยังไม่เอื้ออำนวย ซึ่งแตกต่างกับต่างประเทศที่หันมาใช้ตู้ความสูง 2.90 เมตร เป็นมาตรฐานสากล ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขนส่ง สามารถสร้างรายได้เป็นรายได้หลักให้ประเทศได้อย่างยั่งยืน และไม่พบว่าตู้ความสูงชนิดนี้ผิดกฎหมายแต่อย่างใด

ท้ายสุดได้กล่าวอีกว่า สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี และผู้ประกอบการทั่วประเทศที่ประสบปัญหาเรื่องเดียวกัน ขอวอนให้กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฎกระทรวงฉบับที่ 19 ร่วมกันศึกษาข้อมูล และปรับแก้ข้อกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงในปัจจุบัน และทันสมัยเท่าทัน เท่าเทียมกับต่างประเทศ และขอให้ออกประกาศมาตรการผ่อนผันให้ชัดเจนสำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไฮคิว จนกว่าจะมีการอนุมัติปรับแก้กฎหมาย ตลอดจนกำหนดกรอบเวลาในการแก้ไขกฎกระทรวง และการบังคับใช้ให้แน่ชัดด้วย

  ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ  ภาคตะวันออก รายงาน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม