รวบทันควัน..หลวงพี่เมาแอ๋ ลักพระเครื่องเสี่ยร้านอาหาร ราคาหลักแสนบาท อ้างขายซื้อเหล้าดื่ม

รวบทันควัน..หลวงพี่เมาแอ๋ ลักพระเครื่องเสี่ยร้านอาหาร ราคาหลักแสนบาท อ้างขายซื้อเหล้าดื่ม

รวบทันควัน..หลวงพี่เมาแอ๋ ลักพระเครื่องเสี่ยร้านอาหาร ราคาหลักแสนบาท อ้างขายซื้อเหล้าดื่ม

วันที่ 6 ตุลาคม 2563 วงจรปิดจับภาพพฤติกรรมพระสงฆ์รูปนึงได้มานั่งร้านอาหารได้มีพฤติกรรมท่าทางหันซ้ายขวามีพิรุธและได้จังหวะเจ้าของร้านไม่อยู่เอากุญแจเปิดขโมยพระเครื่องในตู้ไป 2 พวงและได้หลบหนีไปล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ร้านอาหารครัวโสภาพันธุ์ ถนนธนะรัตน์ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้พูดคุยกับทางเจ้าของพระเครื่องเผยจังหวะตนเองไม่อยู่พบพระภิกษุรูปนี้มาบ่อยมีลักษณะเมาสุราก่อนฉกพระเครื่องหนี โร่แจ้งความนำตำรวจจับถึงกุฏิพระรับสารภาพสิ้นเตรียมนำไปขายซื้อสุราดื่ม

สอบถามนายนิคม โสภาพันธุ์ อายุ 70 ปี เจ้าของพระเครื่อง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 12.00 น. ตอนนั้นตนไม่อยู่ร้านมีเพียงหลานที่เฝ้าร้านให้ ซึ่งพระภิกษุรูปดังกล่าวนั้นมาที่ร้านบ่อยจะมานั่งดื่มน้ำและมารับประทานข้าวทุกครั้ง ตนเห็นก็สงสารก็สั่งลูกน้องทำให้ทุกครั้ง แต่มาวันที่เกิดเหตุตนไม่อยู่ร้าน ซึ่งดูจากในวงจรปิดจึงได้เห็นว่าพระภิกษุรูปดังกล่าวมานั่งอยู่ตรงเก้าอี้ใกล้ตู้เก็บพระและได้เอามือหยิบกุญแจที่ตนซ้อนไว้ในถุงและอาศัยจังหวะคนในร้านเผลอหยิบพระเครื่องแล้วเดินหนีออกไป จนกระทั่งตนมารู้ตัวจึงได้ไปแจ้งความไว้เมื่อเช้าและเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หมูสีจึงได้ไปตามจับตัวพระภิกษุดังกล่าวที่วัดและนำพระเครื่องมาคืนตนเองแล้ว ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจมากๆที่ติดตามเรื่องให้ เพราะพระเครื่องที่โดนขโมยไปมีมูลค่านับแสนบาทและมีแต่เกจิพระอาจารย์ดังๆทั้งนั้น

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หมูสีได้ตามติดตามตัวพระรูปดังกล่าวหลังจากได้รับแจ้งความจากเจ้าทุกข์ซึ่งได้ติดตามไปที่วัดศิมาลัยทรงธรรม ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาและได้ทำการจับกุมตัวพระภิกษุรูปดังกล่าวเบื้องต้นไม่ทราบชื่อว่าอะไร ไม่มีเอกสารหรือใบสุทธิ พูดจาไม่รู้เรื่องเพราะยังมีอาการ่มึนเมาสุราอยู่ แต่เบื้องต้นพระภิกษุรูปดังกล่าวได้การสารภาพว่าได้ขโมยพระเครื่องจากร้านอาหารไปจริงและนำไปซุกไว้ในยางในรถมอเตอร์ไซด์แถวที่พักเตรียมนำไปขายและไปซื้อสุราดื่ม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวพระภิกษุรูปดังกล่าวไปทำการสึกและนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมและแจ้งข้อหาลักทรัพย์ต่อไป.

ภาพ-ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครราชสีมา

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม