ชาวนาบุรีรัมย์เกี่ยวข้าวหนีน้ำจากโคราช ระบุได้แค่ไหนก็เอา ดีกว่าจมน้ำสียหาย
วันที่ 21 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวนา อ.คูเมือง ,สตึก และ อ.พุทไธสง ที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำมูล ต่างเร่งเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ทั้งที่ยังไม่สุกเต็มที่ ตามคำเตือนของนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ว่าจะมีมวลน้ำจากจังหวัดนครราชสีมา ไหลมาสมทบ และคาดว่านาข้าวในที่ลุ่มติดแม่น้ำมูล ของจังหวัดบุรีรัมย์ อาจได้รับผลกระทบ
นางสอน เพชรไชย อายุ 55 ปี บ้านเลขที่81 ม.6 ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากติดตามสถานการณ์น้ำของจังหวัดนครราชสีมา บวกกับได้รับการแจ้งเตือนจากผู้นำหมู่บ้าน ประกอบกับประสบการณ์ที่ผ่านมา หากน้ำท่วมในเขตจังหวัดนคราราชสีมา ก็มักจะไหลมาทาง อ.ชุมพวง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา
ไหลลงแม่น้ำมูล โดยพื้นที่ที่มีแม่น้ำมูลไหลผ่านคือ อ.พุทไธสง ค.เมือง และ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ น้ำจะท่วมนาข้าวจนได้รับความเสียหายทุกครั้ง โดยครั้งนี้ ได้ตัดสินใจเกี่ยวข้าวที่ยังสุกไม่เต็มที่ จากที่จะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 20-30 วัน จึงเร่งเก็บเกี่ยวก่อน ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ดีกว่าถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลในเวลานี้ พบว่าขึ้นสูงและเริ่มท่วมนาข้าวในที่ลุ่มบ้างแล้ว คาดว่าในเวลาอันใกล้น้ำจากจังหวัดนครราชสีมา จะไหลมาสมทบอีก จะทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำมูล.
ภาพ-ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.บุรีรัมย์
