ชาวพม่าลักลอบขนโค-กระบือ

ชาวพม่าลักลอบขนโค-กระบือ เข้าไทย ใครอยู่เบื้องหลัง

ชาวพม่าลักลอบขนโค-กระบือ เข้าไทย ใครอยู่เบื้องหลัง

 แฉ…ขบวนการผู้มีอิทธิพลแนวเขตไทยติดต่อพม่า  รับซื้อโค-กระบือ ผิดกฎหมาย ว่าจ้างแรงงานพม่าไล่ต้อนลัดเลาะแนวเขตยาว 60 กม.ใช้เวลา 10 วัน 10 คืน เข้าช่องทางธรรมชาติสู่ราชอาณาจักรไทย ครั้งละ เกือบ 50 ตัว ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งสอบของกลาง และขบวนการค้าโค-กระบือข้ามชาติ พร้อม ตรวจสอบเบอร์ 085-2997xxx  เป็นของใคร และใครอยู่เบื้องหลัง

……….. จากกรณีที่หน่วยข่าวความมั่นคง ได้ทราบเบาะแสว่ามีขบวนการค้าโค-กระบือ ข้ามชาติ โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ ม.5 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นช่องทางนำเข้าโค-กระบือ โดยผิดกฎหมาย   จึงได้บูรณาการร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ที่ว่าการ อ.ทับสะแก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทับสะแก เข้าตรวจสอบ พบแรงงานพม่าเป็นชาย จำนวน 7 คน พักอยู่ในเต้นผ้าใบชั่วคราว ริมชายป่า สวนมะพร้าว และสวนยางพารา ตรวจไม่พบเอกสารใด ๆ ในการเข้า-ออกประเทศ จึงได้ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

……….เจ้าหน้าที่ให้ล่ามชาวพม่า ดำเนินการสอบถาม ทราบว่า ทั้ง 7 คน กำลังรอเงินค่าจ้างต้อนโค-กระบือ คนละ3.000 บาท   เพราะนายทุนคนไทยได้สั่งซื้อโค  11 ตัว กระบือ 31 ตัว รวม  42 ตัว จากในเขตประเทศพม่า ข้ามมาส่งในเขตแดนไทยช่องภูเขาหนองมะค่า ซึ่งก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามา นายทุนคนไทย ได้ไล่ต้อนขึ้นรถบรรทุกออกไปแล้ว โดยมีชาวพม่าไปด้วยอีก 3 คน(คาดว่าได้หลบหนีเข้าพม่าไปแล้ว) ไม่ทราบว่านำไปส่งไว้ที่ไหน เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น พบใบกระท่อมบดเป็นผง บรรจุถุงพลาสติก จำนวน 55 ถุง นน.5.5 กก. เงินสดอีกประมาณ 10,000 บาท

………และยังได้บอกอีกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่ไล่ต้อนโค-กระบือ มาส่งให้นายทุนคนไทย ที่ติดต่อกับ นายตอยี ผู้เป็นธุระจัดหาชาวพม่า พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านยาแบก้วย อ.ตะนาวศรี จ.มะริด ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 60 กม.แต่ละครั้งจะมีโค- กระบือ ปะปนกันมา ประมาณ 50 ตัว ต้องใช้เวลาในการเดินทาง 10 วัน 10 คืน ด้วยความยากลำบาก ต้องใช้ใบกระท่อมบดผง เป็นยาชูกำลังช่วยในการเดินทาง  เมื่อมาถึงสถานที่นัดหมาย ก็ไล่ต้อนข้ามแดนช่องทางธรรมชาติมามอบให้นายทุนชาวไทย และรอรับเงินค่าจ้าง ตามข้อตกลง ที่ครั้งนี้ทำไมไม่ยอมจ่ายก่อน จนมีเจ้าหน้าที่มาจับกุม

……….จาการตรวจสอบ.ช่องทางธรรมชาติแห่งนี้  เป็นเขตที่ดินของ อดีตผู้ใหญ่บ้าน .ม.๕ ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก เป็นเหตุอันน่าสงสัยว่า การนำเข้าโค-กระบือ จำนวนมากในแต่ละครั้ง และผิดกฎหมาย ทำไมอดีต ผู้ใหญ่บ้าน จึงไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองทราบ เพราะเป็นช่องทางที่อาจนำเชื้อไวรัสโควิด 19 มาแพร่ระบาดในราชอาณาจักรไทย อีกทั้งโรคที่อาจติดมากับโค-กระบือ ที่ไม่ผ่านการคัดกรอง หรือตรวจโรคสัตว์  ถ้ามีการแพร่ระบาดทั้งโรคคน และสัตว์ใครจะรับผิดชอบ ถือได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้องหาข้อสรุป และปราบปรามขบวนการนี้ให้สิ้นซาก

……….ล่าสุด ทราบว่า นายชาตรี จันทร์วีระชัย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีจับกุมคนต่างด้างหลบหนีเข้าเมืองลักลอบนำโค กระบือขายให้นายทุน โดยมี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดเป็นประธาน เพื่อให้นายอำเภอทับสะแก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดชี้แจ้งกรณีไม่ส่งของกลางใบกระท่อมบดผง และของกลางอีกจำนวนหนึ่งที่พบในที่เกิดเหตุคลาดเคลื่อนไปจากความจริง อีกทั้งได้สั่งการให้ นายอำเภอทุกอำเภอ เข้มงวดกวดขันในพื้นที่ ตลอด 24 ชม.ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งให้ปิดช่องทางธรรมชาติทั้ง ๘ อำเภอ

    “มังกร  แดนใต้ “  รายงาน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม