ช้างแสนรู้ ว่ายน้ำชนยุทธหัตถีกับงานแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานยิ่งใหญ่

ช้างแสนรู้ ว่ายน้ำชนยุทธหัตถีกับงานแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานยิ่งใหญ่

ช้างแสนรู้ ว่ายน้ำชนยุทธหัตถีกับงานแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานยิ่งใหญ่

เริ่มแล้วงานแข่งขันเรือยาวประเพณี ชิงถ้วยพระราชทาน ยิ่งใหญ่ สองฟากฝั่งริมแม่น้ำมูล อ.สตึก บุรีรัมย์ จัดเอาเรือหาปลาพื้นบ้านกว่า 100 ลำมาร่วมแข่งขันสร้างสีสัน พร้อมกับนำช้าง”หนุ่มเสก”ชื่อดังมาร่วมแสดงชนยทธหัตถี รวมถึงการท้าชิงช้างว่ายน้ำจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดสุรินทร์ เผยจะมีเงินสะพัดร่วม 10 ล้านบาท

วันที่ 7 พ.ย.63 เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ลำน้ำมูล สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา หน้าที่ว่าการอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี จังหวัดบุรีรัมย์ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2563

ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอสตึก องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลตำบลสตึก และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ร่วมถึงภาครัฐและเอกชนในจังหวัด ได้ร่วมกันจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 6-7 พฤศจิกายน และถือว่าปีนี้เป็นการจัดแบบผสมผสาน ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ

โดยปีนี้เป็นปีแรกในรอบ 4 ปี ที่ปริมาณน้ำในลำน้ำมูล มีระดับเหมาะสำหรับการแข่งเรือมากที่สุด ไฮไลท์ของงานในปีนี้ คือการแข่งเรือนัดพิเศษ ด้วยการแข่งขันเรือหาปลาของชาวบ้าน 2 ฝีพาย มีชาวปรเมงพื้นบ้านนำเรือกว่า 100 ลำมาแข่งขัน ท่ามกลางเสียงเชียร์ของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมดังกึกก้อง

นอกจากนี้ช้างจากจังหวัดสุรินทร์และจัดหวัดบุรีรัมย์ ยังนัดแข่งขันช้างว่ายน้ำข้ามลำน้ำมูล และการแสดงการชนยุทธหัตถีของช้าง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

นายรังสิกร ทิมาตฤกะ (ทิ-มา-ตะ-รึ-กะ)ประธานการจัดงาน กล่าวว่า ปีนี้ได้จัดการแข่งขันเรือรวม 3 ประเภท มี เรือไม้ขนาดไม่เกิน 40 ฝีพายจำนวน 12 ลำ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ,ประเภทเรือยาวท้อิงถิ่นไม่เกิน 36 ฝีพายจำนวน 18 ลำ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

นายรังสิกร ยังกล่าวด้วยว่า การจัดการงานแข่งเรือยาวปีนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปบ้างตามสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทั่วไป โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

โดยได้ให้เรือที่จะเข้าแข่งขัน มาซ่อมบริเวณสถานที่จริงได้ตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน แล้วเปิดให้ร้านค้า สินค้า OTOP มาจัดตั้งร้านจำหน่ายก่อนการจัดงานมากกว่า 10 วัน ทำให้มีนักท่องเที่ยว เดินทางมาเที่ยวงานจับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมากตั้งแต่ก่อนการจัดงานจริง คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงานแข่งขันเรือยาวปีนี้มากกว่า 10 ล้านบาท.

ภาพ-ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.บุรีรัมย์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม