หญิงสูงวัยออกไปเกี่ยวข้าวสูญ 3 วัน หลานสาวฝันบอกให้ขอขมาเจ้าที่แล้วจะพบ สุดท้ายพบตัวในสภาพปกติ

แม่เฒ่าล่องเรือหายไปในสายน้ำ 3 วัน หลานสาวฝันให้มาขอขมาแม่คงคา สุดท้ายพบตัวในสภาพปกติอย่างเหลือเชื่อ

แม่เฒ่าล่องเรือหายไปในสายน้ำ 3 วัน หลานสาวฝันให้มาขอขมาแม่คงคา สุดท้ายพบตัวในสภาพปกติอย่างเหลือเชื่อ

เชื่ออาจเป็นอาถรรพ์ หลังหญิงสูงวัยสติไม่สมประกอบ ออกไปเกี่ยวข้าวในนาที่น้ำท่วมบริเวณฝั่งมูล แล้วหายไปไร้ร่องรอย  จนท.ระดมออกค้นหา 3 วัน สุดท้ายหลานสาวฝันแปลกบอกให้มาขอขมาแล้วจะพบตัว หลังเสร็จพิธีขอขมาพบตัวยายจริงๆ

วันที่ 11 พ.ย. 2563  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามการค้นหาผู้สูญหาย หลังจากทราบข่าวจาก นายเฉลิม บุญปก  อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านม่วงมูล ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ว่าลูกบ้านชื่อ น.ส. เลียบ  สร้อยสีหา อายุ 61  ปี ซึ่งเป็นผู้สูงวัยและสติไม่สมประกอบ ไม่มีครอบครัว อยู่บ้านเลขที่ 146 หมูที่ 8 บ้านม่วงมูล ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์  ได้พายเรือออกจากฝั่งที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน บ้านกุดจับ ข้ามแม่น้ำมูลซึ่งน้ำกำลังขึ้นและไหลเชี่ยวแรง เพื่อข้ามฝั่งไปเกี่ยวข้าวในนาของตนเองที่ถูกน้ำท่วม ที่บริเวณกุดร่อน ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับหมู่บ้าน  ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา จนกระทั่งต่อมา เวลาประมาณ 17.00 น. วันเดียวกัน  นายประยูร จันทา อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน  ที่ออกไปเกี่ยวข้าวในนาน้ำท่วมเหมือนกัน ก็ได้มาบอกว่าเห็น นางสาวเลียบ สร้อยสีหา ครั้งสุดท้ายที่บริเวณป่าทาม กำลังพายเรือกลับออกมาจากบริเวณนาที่ถูกน้ำท่วมแล้ว จึงไม่ได้คิดอะไร  จนกระทั่งค่ำ นางสาลี บัวทองอายุ 74 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของนางสาว เลียบ สร้อยสีหา ก็ได้มาแจ้งว่า ไม่เห็นนางสาวเลียบกลับมาบ้าน จึงได้แต่พากันคิดว่านางสาวเลียบ เรือน่าจะคว่ำและจมน้ำหาย จึงได้ประกาศเครื่องกระจายเสียงในหมู่บ้าน เผื่อว่ามีใครพบเห็น และอีกส่วนหนึ่งก็ได้เข้าไปแจ้งกับทางอำเภอ และแจ้งไปยัง สภ.ท่าตูมแล้ว เพื่อให้ทราบว่ามีคนในหมู่บ้านสูญหาย คาดว่าจะจมน้ำ พร้อมกับได้ประสานไปยังหน่วยกู้ภัยทุกจุดในจังสุรินทร์ เพื่อให้มาช่วยกันออกค้นหา จนกระทั่งดึกแต่ก็ไม่พบ  จึงได้ยกเลิกการค้นหา 

กระทั่งต่อมาในวันที่ วันที่ 10 พ.ย.2563  ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และชาวบ้านก็ได้พากันออกค้นหาอีกโดยเริ่มตั้งแต่เช้ามืด  จนกระทั่งถึงเย็นก็ยังไม่มีวี่แวว หรือร่องรอยใด ๆ  จึงได้ยุติการค้นหาอีกวัน   โดยในวันนี้ ( 11 พ.ย. 2563) ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการออกติดตามค้นหาผู้สูญหาย  โดยชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิจิ๊บเต็กเซียงตึ้ง กู้ภัยสุรินทร์ จุด อ.ท่าตูม และ รัตนบุรี ก็ได้ออกทำการค้นหาต่อ  ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้  ก็ได้มีนายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอำเภอท่าตูม  ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่บริเวณริมแม่น้ำมูล  ติดกับหมู่ที่ 8 บ้านกุดจับ ต.หนองบัว อ.ท่าตูม   ซึ่งเป็นจุดที่นางเลียบผู้สูญหายพายเรือออกไป  พร้อมกับให้กำลังใจญาติๆของผู้สูญหายด้วย  โดยพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือเต็มที่  เต็มที่  ซึ่งในวันนี้ได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าว  ต่างพากันมารอดูเหตุการณ์ที่บริเวณริมแม่น้ำมูลกันเป็นจำนวนมากตลอดทั้งวัน

ด้านนายเฉลิม บุญปก  ผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้เปิดเผยว่า ประมาณ10 ปีแล้วที่นางเลียบไม่ได้พายเรือข้ามแม่น้ำมูล  เพราะว่าแกไม่ได้ทำนา แกให้คนอื่นทำนาให้กิน พอดีปีนี้หลานชายมาอยู่บ้าน  เลยได้ไปทำนา  แล้วพอดีหลานชายก็ไปเข้าโรงพยาบาล  วันที่ไปเกี่ยวข้าวแกเลยไปคนเดียว  แกจะไปหอบข้าวออกจากน้ำ ซึ่งแกสติก็ไม่ค่อยดีด้วย และอายุก็มาก  ไปก็หลงทาง แต่มีชาวบ้านช่วยแกให้ข้าวกิน  และค่ำมาก็ช่วยพาแกออกมาจากบริเวณกุดล่อน  เพราะว่ากุดลอนเป็นพื้นที่รกร้าง มีจอกแหนมาก  พอช่วยออกมาเสร็จถึงที่บริเวณหนองแคน  ซึ่งเป็นที่โล่งแล้วแกคงจะมาได้เอง  ชาวบ้านก็ไม่ได้ติดตามไปอีก จนกระทั่งถึงเวลา 5-6 โมงเย็น ก็หายไปเลยไม่มีใครพบเห็นอีก  จึงคาดว่าน่าจะจมน้ำไปแล้ว  แต่ยังไม่รู้ตรงไหนในแม่น้ำมูล  ซึ่งบริเวณแม่น้ำมูลแถวนี้กว้างและลึกกว่า 10 เมตร  ทำให้การค้นหาค่อนข้างจะยากลำบากมาก

และต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. ก็ได้มีนางรัตน์มณี สาแก้ว  ซึ่งเป็นญาติได้มาทำพิธีขอขมาเจ้าที่เจ้าทางและแม่น้ำคงคา  โดยบอกว่า  เมื่อคืนลูกสาวที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯได้โทรฯมาบอกตนว่า ได้ฝันว่าเห็นยายเลียบอยู่ที่โนนใกล้กับฝั่งมูล  มีบ้านปูนหลังหนึ่งและมีผัวเมียสองคน เอาตัวยายเลียบไว้  และให้เอาเงินมาไถ่หมื่นห้าถึงสองหมื่นก็จะได้ปล่อยตัวให้  ในวันนี้ตนจึงได้มาทำพิธีและเอาเงินเหรียญจำนวนหนึ่งมาพอเป็นพิธีในการมาไถ่ตัว โดยโปรยเงินลงในแม่น้ำตามความฝันของลูกสาวที่ได้โทรฯมาบอกเพื่อเป็นการไถ่ตัว  โดยในฝันยังได้บอกว่าหากมาทำพิธีไถ่ตัวแล้วก็จะปล่อยตัวยายเลียบกลับคืนมาให้ในวันนี้  ตนจึงได้รีบมาทำพิธี  เพื่อที่จะได้พบตัวนางเลียบโดยเร็ว เนื่องจากญาติพี่น้องทุกคนต่างเป็นห่วง หลังจากที่หายตัวไปนานถึง 3 วันแล้ว

จนกระทั่งต่อมาในเวลา 14.30 น.ก็ได้รับแจ้งจากทีมค้นหาว่า  มีคนพบคนลักษณะคล้ายผู้สูญหาย นั่งอยู่บนเรือคนเดียว ที่บริเวณใกล้กับฝั่งกุดมโน ซึ่งห่างจากบ้านกุดจับออกไปประมาณ 10 ก.ม.  ทำให้ทุกคนต่างเริ่มมีความหวัง  และได้พากันรีบเดินทางไปยังจุดที่ได้รับแจ้งทันที  เพื่อที่จะดูว่าใช่นางเลียบหรือไม่  เพื่อที่จะได้รับเอาตัวกลับขึ้นฝั่งมาส่งบ้าน  โดยเมื่อทีมคนหาไปถึงก็ได้พบว่าไม่ใช่นางเลียบผู้สูญหาย  ทำให้ทีมค้นหาต้องกลับมายังหมู่บ้าน  เพื่อออกทำการค้นหาในจุดใหม่ที่คาดว่าผู้สูญหายน่าจะถูกน้ำพัดพาไป  พร้อมทั้งได้แบ่งทีมออกค้นหาตามหมู่บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำมูล  เพื่อค้นหาเบาะแสเพิ่มเติมต่อไป  ซึ่งตลอดทั้ง 3 วันที่ทำการค้นหา  ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างพากันมานั่งรอฟังข่าวกันที่บริเวณริมแม่น้ำมูลท้ายหมู่บ้าน  จุดที่นางเลียบพายเรือออกไปแล้วสูญหาย ไม่ได้กลับมากันเป็นจำนวนมาก  พร้อมทั้งจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นาๆ ทั้งเรื่องความอาถรรพ์และเรื่องความเชื่อต่างๆ

และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  เมื่อเวลา 16.20 น. ผู้สื่อข่าวก็ได้รับแจ้งจากทีมค้นหาว่า  ได้พบตัว น.ส.เลียบ ผู้สูญหายแล้ว  ที่บ้านหนองบัวน้อย ต.แก อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ หลังจากที่มีคนโทรมาบอกว่าพบคุณยายเหมือนในรูปที่ลงข่าวว่าหายแล้ว จึงได้แจ้งให้ญาติพี่น้องทราบ จากนั้นก็ได้พากันเดินทางไปรับตัวตามจุดที่ได้รับแจ้ง   และทันทีที่ญาติพี่ไปถึงก็พบว่า เป็นนางเลียบ สร้อยสีหา ที่หายตัวไปจริง ๆจึงได้รับตัวกลับมาที่บ้านม่วงมูล และเมื่อมาถึงบ้าน  ทุกคนที่รอคอย  ต่างเข้ามาแสดงความยินดี บางคนถึงกับร้องไห้ ส่วนตัวคุณยายเองก็ยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม ถึงแม้เวลา 3 วัน2 คืนที่หายไป ไม่ได้กินข้าวเลย หลังจากนั้นทาง เจ้าหน้าที่จาก รพสต.บ้านม่วงมูล ก็ได้เข้ามาตรวจเช็คความดัน และวัดชีพจรให้คุณยาย และเพื่อให้แน่ใจว่าว่าคุณยายไม่เป็นอะไร ทาง นายเฉลิม บุญปก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านม่วงมูล ก็จะได้พาคุณยายไปเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลท่าตูมอีกครั้ง  เพื่อความสบายใจของทุกๆฝ่าย

โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.เลียบ ว่า  หลังจากที่หายตัวไป 3 วัน 2 คืนนั้น อยู่อย่างไร  ซึ่งนางสาวเลียบได้ตอบว่า  ตอนนั้นหลงทางแล้วเรือมันก็รั่ว  ว่าจะโดดน้ำแต่ก็รู้สึกว่าน้ำลึก  ก็เลยนั้นอยู่บนเรือต่อ  โดยพยายามวิดน้ำออกจากเรือเพื่อไม่ให้เรือจม  ซึ่งเรือก็ลอยไปเรื่อยๆไม่รู้ทิศทาง  ไม่ได้กินข้าวกินน้ำเลย  กลางคืนก็หนาว  จนกระทั่งมาพบคนช่วยขึ้นมาบนฝั่ง  กระทั่งได้มาพบญาติพี่น้องในวันนี้  ซึ่งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสุขกันถ้วยหน้า  ที่ได้เห็นหน้ากันอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่นึกว่าจมน้ำเสียชีวิตแล้ว  โดยได้พากันมาผูกแขนรับขวัญกันที่บ้านอย่างคึกคัก

จากเหตุการ์ครั้งนี้  ทำให้ทุกคนต่างเชื่อว่า  อาจจะเป็นเพราะอาถรรพ์ของป่าทามบริเวณกุดร่อน  ซึ่งภายหลังจากที่ญาติมาทำพิธีขอขมาตามที่ลูกสาวได้โทรฯมาเล่าความฝันให้ฟัง  ซึ่งหลังจากทำพิธีเสร็จได้ไม่นาน  ก็มีคนแจ้งว่าได้พบเห็นนางสาวเลียบ  สร้อยสีหา แล้ว  ในสภาพที่ปลอดภัย ทำให้ทุกคนต่างเชื่อในสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอย่างมาก  และจากนี้ไปก็จะพากันทำบุญใหญ่  เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการร้ายๆขึ้นในหมู่บ้านอีกต่อไป.

ภาพ-ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข-สุทิศ บุญยืน ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม