สิ้นแล้ว "ตาปาน" พ่อเฒ่าวัย 88 ผู้มีใจเทิดทูลสถาบัน ผู้สร้างประวัติศาสตร์นั่งรถสามล้อโยกไว้ทุกข์ มุ่งหน้าสู่ กทม.

สิ้นแล้ว “ตาปาน” พ่อเฒ่าวัย 88 ผู้มีใจเทิดทูลสถาบัน เคยสร้างประวัติศาสตร์นั่งรถสามล้อโยกไว้ทุกข์ มุ่งหน้าสู่ กทม.

สิ้นแล้ว “ตาปาน” พ่อเฒ่าวัย 88 ผู้มีใจเทิดทูลสถาบัน เคยสร้างประวัติศาสตร์นั่งรถสามล้อโยกไว้ทุกข์ มุ่งหน้าสู่ กทม.

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 ที่วัดบ้านโคกสะอาด ต.หนองตะคลอง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมส่งร่างอันไร้วิญญาณของนายปาน หมื่นโยชน์ ชายชราพิการเดินไม่ได้วัย 88 ปี ชาวตำบลหนองตะครอง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อครั้งหนึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์ได้นั่งรถสามล้อแบบคันโยกพระราชทาน ติดรูปพระบรมฉายา และสวมเสื้อสีดำไว้ทุกข์ที่มีข้อความ “ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” โดยออกเดินทางจากบ้านไปตามถนนสายโชคชัย – เดชอุดม ผ่านอำเภอนางรอง อำเภอหนองกี่

ซึ่งมีจุดหมายปลายทางที่ กรุงเทพมหานคร เพื่อน้อมถวายบังคม พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในฐานะพสกนิกรคนไทยคนหนึ่งที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน สร้างความประทับใจแก่ผู้ที่ขับรถสัญจรผ่าน บางคนนำเงิน สิ่งของ อาหาร มามอบให้ และะเป็นกำลังใจให้คุณตาปานฯ เดินทางสู่จุดหมายตามที่ตั้งใจไว้ โดยทางคุณตาปานฯ เคยคุยกับ ผู้สื่อข่าวเมื่อครั้งที่เคยได้พูดคุยกันว่ามีความตั้งใจเดินทางโดยรถโยกคนพิการที่ได้รับพระราชทาน ไปให้ถึงกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าไปกราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเพราะในอดีตได้รับสิ่งของพระราชทาน ทั้งรถเข็นพระราชทาน ฟันเทียมพระราชทาน

ตลอดจน ยังน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่าน มาใช้ในชีวิตประจำวันทำให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขแม้สภาพร่างกายจะพิการก็ตามและที่ผ่านมาได้เห็นพระองค์ทรงงานด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาก เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์อยู่ดีกินดี เมื่อถึงพระบรมหาราชวังก็ได้น้อมถวายบังคมในหลวง รัชกาลที่ 9 แสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายดังความตั้งใจจริงๆเป็นความประทับใจมากครั้งหนึ่งในชีวิต ทั้งยังได้ถวายเงิน จำนวน 70,700 บาท เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ด้วยนั้น มาวันนี้ได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุถูกรถชนขณะเดินทางจาก อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา เพื่อเดินทางกลับบ้านเกิดภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 111 บ้านสระแก้ว หมู่ที่ 5 ตำบลหนองตะคอง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ยังความเศร้าโศกเสียใจให้กับครอบครัวและญาติๆเป็นอย่างมาก

ซึ่งผู้สื่อข่าวได้รู้จักคุณตาปานฯ และเคยให้ความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด – 19 ช่วงนั้นชีวิตความเป็นอยู่ของคุณตาปานค่อนค้างยากลำบากมาก จึงได้ขับรถโยกสามล้อคู่ชีวิตเข้ามาที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ซึ่งเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 5 กิโลเมตร เพื่อมาขอความช่วยเหลือจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 และทางพันเอก บุญส่ง พรมนิล หัวหน้ากองยุทธการ มณฑลทหารบกที่ 25 สมัยยังดำรงตำแหน่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ได้เดินทางเข้าให้การช่วยเหลือภายเป็นข้าวสาร จำนวน 1 กระสอบ (50 กก.) พร้อมเงินจำนวนหนึ่ง และรับทราบปัญหาและความต้องการจากคุณตาปานฯ คืออยากให้หน่วยซ่อมรถโยกให้ใหม่เนื่องจากคันเก่าชำรุดทรุดโทรมมาก จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่า คุณตาปานฯได้มีครอบครัวและ มีบุตร จำนวน 6 คน บรรยากาศโศกเศร้าเสียใจกับครอบครัวและญาติๆเป็นอย่างมาก.

ภาพ : ข่าว พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร ผู้สื่อข่าวประจำ จ.บุรีรัมย์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม