ชมรมสตรอง

ชมรมสตรอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ปปช.จังหวัดจันบุรี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (หรือตำรวจ ปทส.) ลงพื้นที่ป่าสงวนป่าตกพรม

ชมรมสตรอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ปปช.จังหวัดจันบุรี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (หรือตำรวจ ปทส.) ลงพื้นที่ป่าสงวนป่าตกพรม

วันนี้เวลา 10:00 น. เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานประกอบด้วย ชมรมสตรอง จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดจันทบุรี  เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จบ.7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.2 บก.ปทส.) ลงสำรวจพื้นที่ที่มีการบุกรุกและถูกดำเนินคดีมาแล้วในช่วงเวลาหนึ่งถึงสองเดือนที่ผ่านมา เพื่อรับทราบข้อมูลสืบเสาะการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับการจับกุมผู้กระทำความผิดต่อทรัพยากรป่าไม้ จากการลงพื้นที่ในจุดแรกเป็นพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลบ่อเวฬุ  อำเภอขลุง

เป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกทั้งหมด 19 ไร่เศษ มีการตรวจยึดรถแม็คโคร ที่กำลังกระทำความผิดอยู่ในแปลงนี้จำนวนถึง 5 คัน โดยขณะนี้กระบวนการอยู่ในชั้นศาลโดยเจ้าของที่ได้รับสารภาพว่าตนเองขาดเจตนาที่จะบุกรุกป่าเนื่องจากคิดว่าที่บริเวณดังกล่าว ยังอยู่ในเขต สปก.ที่ตนเองครอบครองอยู่ โดยทางคดีแพ่ง ผู้ครอบครองได้ยอมเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 1,300,000 บาท (หนึ่งล้านสามแสนบาท) และยอมคืนพื้นที่ให้กับทางรายการ ส่วนฝายกั้นน้ำที่สร้างด้วยปูนซีเมนต์แบบถาวร อยู่ระหว่างรอคำตัดสินของศาลชั้นต้น หากศาลมีคำพิพากษาให้รื้อถอน ก็จะใช้มาตรา 25 ตามคำสั่งผู้ดูแลป่าสงวนแห่งชาติ

ส่วนรถแม็คโครทั้ง 5 คัน ที่ยึดมานั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเพื่อดำเนินคดี โดยในขณะนี้เจ้าของรถได้วางเงินเป็นหลักประกันเป็นจำนวนเงินเท่ากับราคาของรถแม็คโคร แล้วจึงนำไปเก็บรักษาไว้ด้วยตนเองจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ

จุดที่2 อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง มีพื้นที่ถูกบุกรุกจำนวน 10 ไร่ 3 งานเศษ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าตกพรม อีกเช่นกัน  ที่แปลงนี้ถูกแผ้วถางจากด้านในป่า โดยเว้นรอบนอกไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ มีการปลูกต้นทุเรียนเดินท่อวางระบบน้ำอย่างดี ถูกดำเนินคดีฟ้องศาลโดยทางแพ่งต้องชดใช้เงินจำนวน 700,000 กว่าบาทพร้อมกับคืนพื้นที่ที่บุกรุกให้กับเจ้าหน้าที่  ส่วนทาคดีอาญายังไม่สิ้นสุด โดย ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีการจัดเวรยามขึ้นมาสำรวจเป็นระยะ

.. หลังจากตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดพร้อมกับรับฟังข้อมูลรวมถึงปัญหาในการปฏิบัติงานในพื้นที่ทางเจ้าหน้าที่ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต จังหวัดจันทบุรีได้บันทึกข้อมูลพร้อมกับหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้มอบให้เพื่อไปตรวจสอบต่อไป

นายภูวดล เหล็กดำ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปรามการทุจริตจังหวัดจันทบุรี ได้กล่าวว่า  การลงพื้นที่ในวันนี้ ทางชมรมสตรอง ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องทรัพยากรป่าไม่ ที่มีการบุกรุกเพื่อทำสวนกันทุกวัน จึงได้มาสำรวจ และวางแนวทางในการเฝ้าระวังร่วมกัน และมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

หากประชาชนมีเรื่องที่จะร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐในความผิดฐาน ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ กระทำความผิดต่อหน้าที่ในการยุติธรรม สามารถแจ้งได้ที่ สำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดจันทบุรี เลขที่ 116-128 ถนนแผ่นดินทอง ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี หรือโทรเบอร์ 039-302575 ในเวลาราชการ

สมเศียร โชติสนิท ผู้สื่อข่าวจังหวัดจันทบุรี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม