ลูกชาย 5 ขวบเห็นคาตา พ่อผูกคอตายหนีคดีแทง นศ.เสียชีวิต
เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 20 ธ.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ยุทธนา ดวงกล้า สว.สอบสวน สภ.เมือง ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุโพธิ์ทองว่า เกิดเหตุคนผูกคอเสียชีวิตที่บริเวณกลางทุ่งนา บ้านซำ หมู่ 1 ต.ซำ อ.เมืองศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.มาโนช รัตนโชติ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.อ.กฤษณ์ พรมดี ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.พิเนตร ดาวเรือง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ แพทย์เวร รพ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างของชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายกิตติ คำสวรรค์ หรืออาร์ม อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ใช้เชือกซึ่งเป็นราวตากผ้าแขวนคอตัวเองที่กิ่งต้นมะม่วง โดยมีถังสีขาววางอยู่ที่เท้า จากการตรวจค้นในตัวพบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือของผู้ตาย ข้อความว่า “อาร์มต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้ผิดหวังในตัวอาร์ม กราบขอโทษพ่อแม่ พี่หญิงด้วย ที่ทำให้ลำบากใจมาตลอด อาร์มก็ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น เพราะอาร์มไม่ได้จะไปหาเรื่อง และไปตีน้องเขาเลย แค่ตบบ่าน้องเค้า ถามว่าอยู่บ้านไหนแค่นั้น น้องอีกคนไม่พอใจ ก็พากันมาต่อยอาร์มก่อน (ไปดูกล้องวงจรปิดหน่อยเด้อ) ตอนนี้อาร์มเหนื่อยมากครับ ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ด้วยรักและคิดถึงทุกคนมากๆ ต่อไปนี้ไม่มีอีกแล้วนะ คนชื่อกิตติ คำสวรรค์ (อาร์ม) (ชีวิตใครใครก็รัก ผมเข้าใจ ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต คงพอใจนะ) ฝากบอกวัยรุ่นทั้งหลายด้วยว่า เวลามีเพื่อนเยอะ ไม่ใช่จะไปรุมตีเขา อย่าเอาเพื่อนและอารมณ์เป็นใหญ่ สุดท้ายมีแต่เสียกับเสีย “ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้” คำนี้มันกินไม่ได้หรอก ศักดิ์ศรีไม่ได้ช่วยอะไรเลย” พนักงานสอบสวนจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่มาพบศพเป็นคนแรกคือน้องกันต์ อายุ 5 ขวบ ซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้เสียชีวิต โดยน้องกันต์บอกว่าปั่นจักรยานมายังที่เกิดเหตุเพื่อมาเก็บลูกชมพู่กิน แต่เมื่อมาถึงพบว่านายอาร์มพ่อของตนเองผูกคอตนเองใต้ต้นมะม่วง จึงร้องลั่นด้วยความตกใจสุดขีด จากนั้นได้รีบปั่นจักรยานกลับไปบอกปู่กับย่า เพื่อให้มาให้การช่วยเหลือนายอาร์ม แต่เสียชีวิตแล้ว
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่า นายอาร์มเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตาย โดยเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของคืนวันที่ 16 ธ.ค. 63 นายอาร์มได้ใช้อาวุธมีดที่ซุกซ่อนมาในกระเป๋าแทงนายปรินทร โพธิ์ทอน หรือน้องหยัง อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 3 สาขาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เสียชีวิตขณะที่น้องหยังมากินข้าวต้มกับเพื่อนที่ร้านแห่งหนึ่งในตลาดสดเทศบาล 1 จากนั้น นายอาร์มได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ไล่ติดตามจับกุมนายอาร์ม ล่าสุดคืนวันที่ 19 ธ.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามนายอาร์มไปที่กลางทุ่งนาบ้านโนนเพ็ก ต.โนนเพ็ก อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ และได้ล้อมเอาไว้เพื่อจับกุม แต่นายอาร์มสามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้อย่างหวุดหวิด ล่าสุดได้มาผูกคอเสียชีวิต เพื่อหนีคดีฆ่าคนตายที่ได้ก่อเหตุเอาไว้
น.ส.หญิง (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายอาร์มที่เสียชีวิต กล่าวว่า นายอาร์มได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าได้แทงคนตายและมีความเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา โดยขอให้ตนนำตัวไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ แต่ว่าจะรอให้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพของน้องหยังที่ถูกแทงเสียชีวิตไปก่อน เพราะเกรงว่าหากนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เกรงว่าอาจจะถูกรุมประชาทัณฑ์ได้ แต่ไม่คิดว่าน้องจะมาคิดสั้นผูกคอตายไปเสียก่อน
พ.ต.อ.มาโนช รัตนโชติ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจสอบจดหมายลาตายของผู้เสียชีวิตแล้ว พ่อแม่ของผู้ตายยอมรับว่าเป็นลายมือของผู้ตายเขียนขึ้นมาเอง ซึ่งทางด้านคดีความนั้น ผู้ตายได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน น.ส.พรรณิพา พงษ์พิระ อายุ 39 ปี น้าสาวของน้องหยังที่ถูกนายอาร์มแทงเสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า น้องหยังเป็นคนดีมาก ขยันทำมาหากินช่วยพ่อแม่ ในวันเกิดอายุครบ 19 ปี ได้ขอพ่อแม่ซื้อรถแบ็คโฮ เพื่อมาใช้ในการทำธุรกิจต่าง ๆ โดยพ่อแม่ได้ไปดูรถแบ็คโฮเอาไว้ให้ลูกชายเอาไว้แล้ว เนื่องจากพ่อแม่ภูมิใจในตัวน้องหยังเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นคนดี ช่วยพ่อแม่ในการทำมาหากินมาโดยตลอด เป็นคนตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่คบเพื่อนเกเร แต่มาถูกแทงเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจ ตนและญาติพี่น้องได้อโหสิกรรมให้กับนายอาร์ม เพราะถือว่าชีวิตได้ชดใช้ด้วยชีวิตไปแล้ว แม้ว่าจะไม่คุ้มค่าเลยกับการที่น้องหยังซึ่งเป็นคนดีของครอบครัวและญาติพี่น้องได้เสียชีวิตไปก่อนวัยอันสมควรแบบนี้.
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ
