แม่หัวใจสลาย! เด็กชาย 2 เดือนนอนดิ้นในเปล ร่างพลิกหน้าคว่ำขาดใจดับ ในวันเกิดพี่ชายวัย 5 ขวบ
วันที่ 28 ธันวาคม 2563 เวลา 08.30 น. ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นายจอมใจ หาสอดส่อง ผญบ.ม.2 ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ว่ามีเหตุเด็กทารกเพศชาย อายุ 2 เดือน 2 วัน นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในเปล ภายในห้องพักคนงานขายไอศกรีม สำนักงานกลุ่มเกษตรกรทำนาสามพร้าว ที่มาเช่าเปิดเป็นศูนย์เก็บไอศกรีมแมวน้ำ จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี จนท.รพ.สต.สามพร้าว และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม
ในที่เกิดเหตุพบศพ ด.ช.นัด(นามสมมุติ) หรือน้องปาล์ม อายุ 2 เดือน 2 วัน ที่มีน่าตาน่ารักน่าชัง นอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่นอนที่ปูไว้บนพื้นกลางห้องพัก โดยมี นางสาวสุธิมา อายุ 20 ปี ชาว อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี แม่ของน้องกอดศพร้องให้แทบจะขาดใจตาม พร้อมกับขอโทษลูกที่ดูแลไม่ดี และหากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นลูกของแม่อีก ขณะที่นายทวีศิลป์ อายุ 20 ปี พ่อน้อง คอยพูดปลอบใจภรรยาอย่าโทษตัวเอง เพราะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีครอบครัวของใครอยากให้เกิดขึ้น จากการตรวจสอบสภาพศพตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจมาประมาณ 5 ชั่วโมง พ่อแม่และญาติไม่ติดใจในสาเหตุ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลประเพณีทางศาสนาต่อไป ของ ศาสนาคริสต์
จากการสอบสวน นางสาวสุธิมา แม่น้องให้การว่า ตนและสามีมาทำงานขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเร่ขายไอศกรีมในตัวเมืองอุดรธานี พร้อมกับญาติพี่น้องรวม 8 คน โดยมีนายจ้างเป็นป้าและลุงของสามี ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำวานนี้ นำน้องปาล์มนอนในเปล เวลาประมาณ 21.00 น. กระทั่งเช้ามืดวันนี้เวลาประมาณ 05.00 น. สะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะผิดสังเกตที่ลูกชายไม่ร้องกินนมเหมือนเช่นทุกวัน จึงลุกขึ้นมาดูลูกในเปลพบว่านอนคว่ำหน้า พยายามร้องเรียกลูกให้ตื่น แต่ก็สายไปเสียแล้ว เนื่องจากลูกไม่หายใจและร่างกายเริ่มแข็งตัว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งนายจ้าง หรือ ป้า ช่วยแจ้ง ผญบ.และตำรวจมาตรวจสอบ
โดยความรู้สึกเสียใจมากที่สุดในชีวิตที่ เพราะน้องปาล์มเป็นเด็กน่ารักและเลี้ยงง่ายไม่ค่อยงอแง โดยไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุร้ายล่วงหน้าเลย แต่มีสิ่งที่เหลือเชื่อที่น้องปาล์มมาเสียชีวิตตรงกับวันเกิดของน้องออร์นิว อายุ 5 ขวบ พี่ชายต่างบิดาที่พ่อกับแม่ของตนเลี้ยงดูแลอยู่ที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี และน้องปาล์มลืมตามาดูโลก เวลา 22.22 น. วันที่ 26 ตุลาคม 2563 ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และเสียชีวิต อายุ 2 เดือน 2 วัน และเป็นลูกชายคนที่ 2 ของตนเองด้วย ซึ่งส่วนตัวของตนเป็นเรื่องแปลกและเหลือเชื่ออย่างมากที่ตัวเลขเกี่ยวข้องกับน้องปาล์มจะมีแต่เลข 2 ”
นางสมร พิมพ์อินทร์ อายุ 48 ปี ชาว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี มีศักดิ์เป็นย่าของน้องปาล์ม เปิดเผย ทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากที่มาสูญเสียหลานชายอย่างไม่มีวันหวนกลับ และพ่อของน้องปาล์ม เป็นหลานชายแท้ๆของตนเอง ซึ่งปกติแล้วน้องปาล์มเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย ทำให้เป็นที่รักและเอ็นดูของญาติพี่น้องที่มาทำงานขายไอศกรีมรวมทั้งหมด 8 คน โดยช่วงกลางวันตนและสามีจะเป็นคนดูแลน้องปาล์ม กลางคืนพ่อและแม่ของน้องจะเป็นคนดูแลเอง เคยขอลูกของหลานชาย จะมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม แต่หลานชายกับภรรยาไม่ยอมให้เพราะพวกเขารักลูกมาก แต่ตนก็มีความผูกพันธุ์ในสายเลือด คอยดูแลเขาเป็นอย่างดีเวลาพ่อกับแม่ของน้องปาล์มออกไปขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเร่ขายไอศกรีม
ส่วนนางสาวชัชฎาภา อินทรกุล อายุ 22 ปี ชาว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี มีศักดิ์เป็นป้าของน้องปาล์ม เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจมากที่หลานชายมาจากไป หากเป็นไปได้อยากให้เขาฟื้นกลับคืนมาอยู่กับตนเอง เพราะเป็นหลานชายคนแรกก็ว่าได้ แม่และตนรวมทั้งญาติพี่น้องที่มาขายไอศกรีมด้วยกันรักและเอ็นดูเข้ามาก เพราะเขาเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมาก แต่ช่วงค่ำวานนี้น้องปาล์มร้องไห้งอแงไม่หยุด เหมือนจะเป็นลางสังหรณ์ ต้องคอยอุ้มพาดใส่บ่านานหลายชั่วโมง เหมือนเขาอยากจะบอกว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่จะได้อยู่ด้วยกันกับญาติพี่น้อง เหมือนกับเป็นลางบอกเหตุล่วงหน้าก็ว่าได้ และอยากจะบอกดวงวิญญาณของน้องปาล์มว่า พวกเรารักน้องปาล์มมาก และขอให้ดวงวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี หากชาติหน้ามีจริงขอให้กลับมาเกิดเป็นลูกหลานกันอีกครั้ง
ด้าน ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและตรวจสอบสภาพศพในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจประมาณ 5-6 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่า ขณะพ่อและแม่ของน้องปาล์มนอนหลับอยู่บนที่นอนพื้นห้องพัก และน้องปาล์มนอนหลับอยู่ในเปล คาดว่าน้องปาล์มคงนอนดิ้นทำให้เปลเอียง และร่างกายของน้องปาล์มพลิกในลักษณะคว่ำหน้า ทำให้ไม่สามารถหายใจได้ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่พ่อแม่นอนหลับสนิท เนื่องจากอ่อนล้าจากการทำงานขายไอศกรีมทั้งวัน ทางญาติไม่ติดใจในสาเหตุ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
ภาพ – ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี
