ขุมทรัพย์เหมืองแร่

ขุมทรัพย์เหมืองแร่ (ต่อ)ทางเลือก สู่ทางรอดเหมืองแร่ สัตหีบ

ขุมทรัพย์เหมืองแร่ (ต่อ)ทางเลือก สู่ทางรอดเหมืองแร่ สัตหีบ

หลังจากที่ เพจ Csi.lr ได้เสนอความจริงอีกด้าน เรื่อง ขุมทรัพย์เหมืองแร่ มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนเพียงไม่กี่คนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ออกมากล่าวหาว่า ผู้เขียนมีเป้าประสงค์” โจมทีกองทัพ” ซึ่งไม่เป็นความจริง และคิดผิดอย่างมหันต์ ถ้าได้ติดตามอ่านมาตั้งแต่ตอนแรกๆจะเข้าใจดีว่าแก่นสารของผู้เขียนได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะสื่อข้อมูลอีกด้านมาบอกกล่าวกัน ให้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาให้ตรงประเด็น ตรงกับปมปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเร่งด่วน เพราะเกรงว่าถ้าขืนปล่อยทิ้งไว้จะบานปลายยากจะทัดทาน อีกทั้งข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริง ไม่ถูกนำเสนอให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจได้รับทราบ ไม่มีผู้ใดได้รับโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงในทางตรง จึงมีความจำเป็นต้องใช้อักษร  เป็นสื่อ แสดงเจตนาดีต่อกัน ดังคำโบราณบอกว่าอย่ามองข้าม “จิ้งจกทัก ยังต้องหยุด”

เพจ  Csi.lr และทีมงานได้รับเอกสารสำคัญจำนวนมาก จากผู้ปรารถนาดีกับกองทัพ เพื่อสื่อให้เกิดวามชอบธรรม ให้เกิดขึ้นในองค์กร ช่วยกันสกัดกั้นขบวนการ”คลื่นใต้น้ำ”ที่ได้แสดงเจตนาชัดเจนในการสร้างความ.”อยุติธรรม” (เพียงแต่หลักฐานทั้งหมดยังไม่ถูกนำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ก็มีอยู่ในมือของพรรคฝ่ายค้าน เรียบร้อยแล้ว) ความเสื่อมเสียที่เกิดขึ้น เพียงคนบางคนเท่านั้นที่รายงานข้อมูลที่ตรงข้ามกับความเป็นจริง ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า เจตนา การปฏิบัติให้ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้เหมืองแร่แห่งนี้เกิด”ความยั่งยืน” ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น”ผู้ใด”เป็นคนสร้างปัญหา และคาดหวังว่าจะได้ผลอะไรตอบแทน จะด้วยความตั้งใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ตาม ไม่ผิดอะไรกับ “สนิมที่เกาะกินจากด้านในของเหล็ก”

*******คงต้องถามกันแล้วว่าใครล่ะที่นำ”ขยะ”เน่าเหม็นที่ถูกปิดไว้ใต้พรมมายาวนาน มาเปิดเผยในเวทีใหญ่ของประเทศ ถือว่าโชคดีที่ยังเป็นข้อมูลที่ผิดเป้าประเด็นของปัญหาอย่างแท้จริง จึงมีทางออกให้ผู้นำของกองทัพเรือ ได้ชี้แจ้งข้อเท็จจริงกับสภากลาโหม ในเรื่องที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้าน และเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทำให้ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจ้งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ อย่างมีเหตุผล อย่างไร้คำครหา โดยมีสาระสำคัญที่เป็นแนวทางแก้ไขปัญหา แนวทางการปฏิบัติให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. 2560 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้กับกองทัพเรือ

*******ดังคำชี้แจงบางตอนที่ว่า แม้ผู้ประกอบการจะมีผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ผู้ประกอบการได้แสดงเจตนารมณ์ในเรื่องของการชดใช้เรื่องของการผิดสัญญา เพิ่มกำลังการผลิตให้เต็มประสิทธิภาพมาโดยตลอด เช่นการเพิ่มขีดความสามารถ การเพิ่มเครื่องจักรกล และอื่น ๆ มีการสำรวจ ขยายเขต และขอเพิ่มปริมาณหิน ขอต่ออายุประทานบัตร ชำระค่าธรรมเนียม ค่าภาษีอากรต่าง ๆ ค่าภาคหลวงแร่  และกองทุนต่าง ๆ โดยใช้ค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการเอง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้เงินทุน  ระยะเวลา ความต่อเนื่อง หลายขั้นตอน

*******รวมทั้งที่ผ่านมาผู้ประกอบการ ได้พยายามปรับปรุงเหมืองแร่ และโรงโม่มาโดยตลอด  จากสภาพเหมืองเดิมที่ “ไม่ได้มาตรฐาน” เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน  กฎระเบียบของกระทรวงอุตสาหกรรม และ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560  ซึ่งขอให้ทุกฝ่ายศึกษาความแตกต่างของ พ.ร.บ.แร่ ดังกล่าวด้วย “ทั้งนี้หากไม่ดำเนินการ “อาจถูกสั่งปิดเหมืองและถูกถอนประทานบัตร”ส่งผลกระทบต่อความเสียหายส่งผลกระทบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกองทัพเรือ ในฐานะผู้ถือประทานบัตร และผู้ใช้ประโยชนจากหินที่ผลิตได้อย่างมาก ซึ่งปัจจุบันมีการก่อสร้าง และขยายท่าเรือ สนามบินอย่างต่อเนื่อง

*******นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวชี้แจ้งอีกว่า หากการพิจารณาในภาพรวมหากจะเห็นว่า การทำสัญญาในปีที่ 2 ให้กับผู้ประกอบการ จะทำให้กองทัพเรือยังคงได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อเปรียบเทียบหากต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดี…ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้น ประมาณการว่าผู้ประกอบการมีจำนวนทรัพย์สิน และทุนที่ใช้ดำเนินการทำ เหมืองหิน ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องจักรต่าง ๆ เพียงพอในการชดใช้ค่าเสียหายให้กับกองทัพเรือได้ จึงขอให้เข้าใจถึงการทำงานของกองทัพเรือที่ต้องดำเนินการในหลายขั้นตอน เพื่อพิจารณาแต่ประเด็นที่ได้ประโยชน์สูงสุด และยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการตามสัญญาที่ระบุไว้

*******กระจ่างชัดกันหรือยังว่าผู้เกี่ยวข้อง และผู้นำทัพ ได้รับทราบข้อเท็จจริงแล้วว่าปัญหาเหมืองแร่ในอดีตได้บริหารจัดการผิดพลาด ผิดกฎหมายมายาวนาน ใม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ จึงรายงานข้อเท็จจริงให้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบ และประคองไว้ “เหมือนบัวไม่ให้ซ้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น” อีกทั้งชี้แนวทางให้กองทัพเรือ ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 และกฎหมายอื่น ๆ อย่างเคร่งครัด นี่คือ “ทางเลือก สู่ทางรอด”ในการแก้ไขปัญหาภายในเหมืองแร่  ไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย น่าจะเป็นส่งสัญญาณให้ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต้องค้นหาความจริงว่า ผู้ใด คนกลุ่มไหนที่สร้างปัญหาให้กองทัพเรือ และคงต้องลงลึกมาถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริง ค้นหาขบวนการแสวงประโยชน์ในเหมืองแร่ และเอื้อประโยชน์ให้กับคนภายนอกในขณะนี้

******ล่าสุดได้มีการรวมพล “คนผิดร่วมกันปกป้องคนผิด” เพื่อให้ถอนหลัก แก้เชือกที่อาจถูกพันธนาการ และมีมลทินออกจากสาระบบกระบวนการยุติธรรม ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยยื่นข้อเสนอต่อกันว่าจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้เข้ามาประกอบธุรกิจในเหมืองแร่แห่งนี้ในเวลาที่กำลังใกล้จะถึงนี้ นี่คือ คลื่นใต้น้ำ ที่กำลังพุ่งเข้ามากระทบฝั่งอีกระลอกถ้า “ไม่ตัดไฟเสียแต่ต้นลม” เหมืองแร่แห่งนี้คงไม่สงบนิ่งเหมือนที่หลายฝ่ายมุ่งหวัง ถ้ายังขืนปล่อยให้มีการแทรกแซงกิจการหิน สัมปทาน กองทัพเรือ  ปัญหาในอดีตที่ผ่านมาคงไม่มีใครขัดขวางได้ แต่ถ้า คนผิดร่วมกันปกป้องคนผิด เป็นเพียงละครเพื่อ “แก้ผ้าเอาหน้ารอด”คงไม่มีใครตำหนิ แต่ต้องแสดงออกถึงความเป็นลูกผู้ชาย หรือชายชาติทหารเพียงพอ โดยยึดหลัก“ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” และไม่ผูกปมปัญหาทั้งปวงเพิ่มขึ้นอีก ประแสก็จะค่อย ๆ สงบลง…. ถ้ายังปล่อยให้คนบางคนหยิบยกประเด็น “มูลดิน” มาผูกเป็นปมปัญหา เรื่องในอดีตที่ยังเป็นปมปริศนาจะไม่มีทางออก ไม่มีทางแก้

 “เพจ Csi.lr ยืนยันว่าไม่มีเป้าประสงค์ในการโจมตี “กองทัพเรือ”เพียงมีหน้าที่ส่งสารให้ผู้บริหารได้รับทราบปมปัญหาเท่านั้น อีกทั้งยังมิได้หวังว่าจะเพิ่มยอดผู้อ่านให้เพิ่มสูงขึ้นแต่อย่างใด หวังเพียงให้ผู้อ่าที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพียงไม่กี่คนได้รับทราบความเคลื่อนไหวของขบวนการแทรกแซง แสวงประโยชน์ อีกทั้งผู้ที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงของปมปัญหาในเมืองแร่แห่งนี้ได้รับทราบ หรืออาจหยิบยกข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากเพจ.Csi.lr นี้ไปองค์ประกอบในการพิจารณาแก้ไขปัญหาให้ตรงประเด็น  เพราะคำตอบสุดท้ายที่หนีไม่พ้นก็คือ เจตนา ความจริง ความถูกต้อง ความยั่งยืน “                                                          

                                                                  “มังกรบูรพา”

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม