เหนื่อยก็พักไม่ได้ อู๊ด ผู้สมัครนายก ”ทีมฅนรักสัตหีบ” พาลูกทีมลุยหาเสียงหนักหวังคว้าชัยชนะยกทีม
อดีตนายก “อู๊ด” ไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา ฉายานายกติดดิน ลูกนายทหารเรือเก่า มั่นใจความสัมพันธ์ในค่ายทหารเหนียวแน่นมายาวนาน ทหารและครอบครัวไม่ทิ้งให้พ่ายแพ้ ส่วนกระแสตอบรับจากชาวบ้านไม่ธรรมดา ไปถิ่นไหน ซอยไหนใคร ๆ ก็รู้จัก คาดสมัยนี้แพ้ไม่เป็นต้องยกทีมทั้ง 2 เขต
ต้องนับถอยหลัง เมื่อถึงที่ 28 มีนาคม 2564 มีลุ้นเมื่อประชาชนเดินเข้าคูหาแบบ”รู้หน้า มิรู้ใจ”อิสระทางความคิด และความปรารถนา จะกาเบอร์อะไรไม่มีใครรู้ อู๊ด ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลเขตอุดมศักดิ์ มั่นใจในวิสัยทัศน์ สร้างคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจก้าวหน้า พัฒนาแบบมีส่วนร่วม ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การศึกษา สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญก็คือด้านก็คือใส่ใจการให้บริการประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ประชาชนประทับใจในเรื่อง ทีมรถดับเพลิง สามารถเข้าสู่ที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว รถพยาบาล(Ambulance Service Center)ที่คอยเฝ้าระวังรับแจ้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือในชุมชนต่าง ๆ โดยไม่แบ่งแยกชนชั้น วรรณะ ไม่มีขีดจำกัดในขอบเขตและพื้นที่ให้บริการ รู้ก่อนไปก่อน เกิดที่ไหนไปช่วยเหลือที่นั่น นี่คือหัวใจด้านบริการประชาชนยามวิกฤติ และต้องการความช่วยเหลือ
นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้สมัครเป็น นายกเทศมนตรีตำบลเขตอุดมศักดิ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวว่า เวลาที่ผ่านไปแต่ละวันชั่งรวดเร็ว การหาเสียงในยุคสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะมีหลายช่องทางการสื่อสารด้วยการเทคโนโยลีสมัยใหม่ ที่เรามิอาจล่วงรู้ได้เลยว่าใครรักเรา เกลียดเราบ้าง หรือสนับสนุนเรา ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินหาเสียงด้วยตัว พร้อมลูกทีม เพื่อได้พบปะพูดคุย รับทราบปัญหาที่แตกต่าง ความปรารถนาของแต่ละคน แต่ละครอบครัว แต่ละชุมชนไม่เหมือนกัน บางชุมชนเดือดร้อนเรื่องน้ำอุปโภค บริโภค บางชุมชนเดือดร้อนเรื่องไฟ บางชุมชนเดือดร้อนเรื่องการสาธารณสุข ปัญหา ความต้องการทั้งหมดที่แตกต่าง ก็จะให้ทีมงานรวบรวมไว้ เมื่อได้เข้าไปเป็นผู้บริหาร ก็จะแจกจ่ายงานเหล่านี้ให้สมาชิกแต่ละเขตเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ตรงประเด็น
ที่ผ่านมามีแต่คนถามผมว่า เหนื่อยไหม ท้อไหมกับการตระเวนหาเสียง อู๊ด ผู้สมัครนายก ตอบเสียงใส ว่า ถึงแม้ว่าจะต้องตากแดด ตัวดำ พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลทุกคน ไม่เคยท้อ เพราะได้สนทนากับประชาชนทุกวัน เหมือนได้ออกมาสร้างความคุ้นเคย สนิทสนม เปิดโอกาสให้ทุกคนระบายความในใจออกมา ทีมงานจะได้เก็บเกี่ยวข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นด้านบก หรือด้านลบ อีกทั้งความผิดพลาด หรือมองข้ามปัญหาเล็กที่อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะว่าไม่มีโอกาสลงพื้นที่ด้วยตัวเอง ปล่อยให้สมาชิกแต่ละเขตดูแลกัน แล้วนำปัญหาทั้งหมดมาสรุปลงความคิดเห็นกันในสภา การเดินหาเสียงจึงเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ประชาชนเหมือนกระจกเงา ที่สะท้อนให้คณะบริหารได้ทราบปัญหา ข้อเท็จจริง สายตรงจากเสียงของประชาชน
และได้กล่าวอีกว่า เรื่องวิสัยทัศน์ ในการหาเสียงนั้น ด้วยศักดิ์ศรี ของอดีตนายกเทศมนตรีสมัยที่ผ่านมา กล้าที่จะรับผิดชอบถ้าทำไม่ได้ตามนี้จริง ส่วนเชิงนโยบายในการบริหารจัดการ ด้านเศรษฐกิจจะต้องส่งเสริมอาชีพในชุมชนให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 เศรษฐกิจทุกด้านถดถอย ส่งผลกระทบให้วิถีชีวิต วิถีชุมชน เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การค้าขายสินค้าทุกชนิด อาศัยช่องทาง Online โดยเฉพาะระบบ Line., Facebook , Instagram ,Twitter ประชาชนเพียงมีโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวก็สามารถทำมาหากินได้แล้ว ถ้ามีสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการทั้งใช้ในการอุปโภค บริโภค จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดอบรมในเรื่องระบบ ช่องทางการสื่อสารถึงกันให้ เยาวชน ประชาชนทั่วไป ผู้สูงอายุ สามารถใช้โทรศัพท์เกื้อกูลอาชีพของตัวเองให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่วนทางด้านการศึกษาได้ส่งเสริมให้สถานศึกษาในเขตเทศบาลตำบลเขตอุดมศักดิ์ สนับสนุนนักเรียนทุกระดับชั้นใช้คอมพิวเตอร์ อีกด้วย
พัชรพล – ณัฐภูมินทร์ ปานรักษ์ รายงาน
