เพลิงไหม้เมรุเผาศพ พระเณรวิ่งกันว่อน ช่วยกันนำน้ำมาดับเพลิงขณะที่ภายในเตายังมีการฌาปนกิจศพอยู่

เกิดเหตุเพลิงไหม้เมรุเผาศพ พระเณรสัปเหร่อและตำรวจ วิ่งกันว่อน ช่วยกันหิ้วถังน้ำมาดับไฟที่ลุกไหม้กองเอกสารและวัสดุ ข้างเตาเผาศพ โดยภายในเตายังมีการฌาปนกิจศพอยู่

เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2563 ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ อาจาติ รอง สารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เมรุวัดสุวรรณคีรีวิหาร หรือวัดหน้าเมือง ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง จึงรีบประสานงานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ และหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองระนอง เร่งรุดเข้าที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุ พบเมรุเผาศพภายในวัดสุวรรณคีรีวิหาร มีกลุ่มไฟและกลุ่มควัน ติดออกจากด้านข้างซ้ายของเตาเผาศพ และที่ปล่องควันเตาเผาศพก็ยังมีกลุ่มจำนวนมากลอยฟุ้งดำอยู่ในอากาศด้านบน เพราะภายในเตายังมีการฌาปนกิจศพอยู่ด้วย โดย พระ,เณร,สัปเหร่อ,และตำรวจสายตรวจ รถจักรยานยนต์ สภ.เมืองระนอง ต่างวิ่งกันนำน้ำใส่ถัง ขึ้นมาสาดใส่กองเพลิง ที่ไฟลุกลามออกจากเตา มาติดกองวัสดุเอกสาร และข้าวของเครื่องใช้ของสัปเหร่อที่เก็บอยู่ด้านข้างเตาเผาศพ จนสามารถดับไฟไม่ให้ลุกลาม ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ต่อมา จนท.หน่วยกู้ภัยและหน่วยดับเพลิง ได้นำรถน้ำดับเพลิง จำนวน 2 คัน เข้ามาถึงที่เกิดเหตุ โดยพระเณรออกมายืนรอดูสถานการณ์อยู่ภายในเต็นท์ด้านข้างเมรุ จากการตรวจสอบของ เจ้าหน้าที่พบว่า เตาเผายังมีการเผาศพอยู่เป็นศพที่ 2 ซึ่งศพแรกได้เผาและเก็บอัฐิเป็นที่เรียบร้อย ส่วนศพที่สองก็ได้ดำเนินการเผาอยู่เกือบเสร็จสิ้นแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเตาเผาได้ เนื่องจากระบบสายไฟฟ้าของเตาเผาเสียหาย ส่วนอัฐิที่เผาอยู่ สามารถคลานเข้าไปเก็บออกมาได้ในเช้าวันพรุ่งนี้

จากการสอบสวนปากคำเบื้องต้น นายนิยม บุญเซ็ก อายุ 65 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ดำเนินการ ฌาปนกิจศพ เป็นรายที่ 2 เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินทางกลับไปบ้านพัก และได้รับแจ้งจากพระภายในวัดว่า เกิดเพลิงไหม้เมรุเผาศพ ตนจึงเร่งมาที่วัดอย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุคาดว่า น่าจะเกิดความร้อนจากเตาเผา ไปเผาไหม้สายไฟฟ้าของระบบเตาเผา จนหลอมละลายและเกิดเป็นเพลิงลุกไหม้ที่ด้านข้างเตาเผา ความร้อนภายในเตามันละอุ ที่ควันขึ้นมาจำนวนมากมันขึ้นมาจากปล่องควันเฉยๆไม่ได้ลุกลามไปไหน เมื่อพระโทรมาบอกไฟไหม้เมรุ ผมว่า เฮ้ย..มันจะไหม้ได้ยังงัย ผมยังว่าเลย โดยกลุ่มไฟและกลุ่มควันที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากการลุกไหม้จากสีตามผนังปูนเตาเผาด้านนอก มีทั้งพานและเอกสารต่างๆทั้งหมดที่มีอยู่ที่ผมวางไว้ด้านนอกเป็นเชื้อเพลิงเผาไหม้ ส่วนระบบไฟฟ้าของเตาเผาศพน่าจะเสียหายทั้งหมด ส่วนคิวการฌาปนกิจศพอื่นๆ ก็จะให้ย้ายไปเผาที่วัดข้างเคียงก่อน กว่าช่างซ่อมเตาจะมาดำเนินการซ่อมแซมคาดว่าน่าจะใช้เวลาร่วม 1-2 เดือน เพราะเตาเผาศพเริ่มเก่าและชำรุด ทั้งระยะนี้มีการเผาศพต่อเนื่องทุกวัน วันละ 2 ศพ เป็นเวลาติดต่อมานานร่วมสัปดาห์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม