รถบัสส่งคนอุดรกลับจากภูเก็ตถึงอุดรอีก3คัน 69คน พ่อเมืองหยอกล้อใครอยู่ไม่ครบ14วัน จะเก็บค่ารถ ค่าอาหาร
วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 เวลา 15.30 น. ที่ศูนย์กักกันตัวกลุ่มเสี่ยง “ค่ายฮีโร่” หอพักสตรี มรภ.อุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี ,นายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.อุดรธานี นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย พร้อมนายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล นายกสมาคมฮากกาอุดรธานี นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ ต้อนรับการเดินทางกลับมาของชาวอุดรธานีจาก จ.ภูเก็ต ตามกลุ่มไลน์ “ผู้ว่าอุดรฯ พาเมืองบ้าน” แบบไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายพร้อมเข้ารับการกักตัว 14 วัน
การเดินทางมาครั้งนี้เป็นชุดที่ 2 หลังจากครั้งแรกเดินทางด้วยรถบัสปรับอากาศ 2 คัน รวม 45 คน ครั้งนี้ก็เดินทางด้วยรถบัสปรับอากาศ 3 คัน รถบัสคันที่หนึ่ง 25 คน คันที่สอง 19 คน และรถบัสคันที่สาม 25 คน รวมทั้งหมด 69 คน เมื่อมาถึงทุกคนเข้ารับการคัดกรองล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อกระเป๋าเดินทาง ตรวจวัดอุณหภูมิ บันทึกประวัติเบื้องต้น พร้อมแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อสอบประวัติเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยทั้งหมดจำได้เข้าพักกักกันตัว ที่อาคารหอพัก 5 ชั้นด้านขวา
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี กล่าวกับชาวอุดรฯ ที่เดินทางกลับว่า ไปทำงานที่ภูเก็ตมีรายได้ดี แต่ก็มีค่าครอบชีพสูงด้วย เมื่อเกิดปัญหามีความเล่าให้ฟัง มีความเดือดร้อนร้อนแบบไหนกันบ้าง ก็ตัดสินใจชวนพวกเรากลับบ้าน อุดรธานียินดีต้อนรับทุกคนกลับบ้าน แต่ที่ภูเก็ตพิเศษเพราะยังพบผู้ติด เดินทางกลับมาก็ต้องกักตัว 14 วัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น พร้อมหยอกล้อว่า “ถ้าใครอยู่ไม่ครบจะเก็บค่ารถ ค่าอาหารวันละ 3 มื้อ”
ขอบคุณชาวภูเก็ตที่ดูแลลูกหลานผม ที่ดูแลมาตั้งแต่ปิดเมือง จนดูแลส่งเขากลับบ้าน ตั้งแต่ส่งรถตู้ไปรับถึงบ้าน เพื่อมาขึ้นรถบัส ทั้งน้องอุ๊ กิตติศักดิ์ เสียงสลัก กลุ่มจิตอาสาที่เรียกกันว่าฮีโร่ไร้ป้าย คุณสมเกียรติ ปิติภาคย์ตวงสิน บ.อันดามัน เซาท์ โคสท์ ทราเวล จก.เจ้าของรถบัส และขอบคุณคุณสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล นายกสมาคมฮากกาอุดรธานี เสนอตัวออกค่าเดินทางและประสานงาน วันนี้ผมได้มอบมะม่วงสุกน้ำดอกไม้ และมะม่วงมหาชนกเกรดส่งออกกลับไปกลับรถด้วย”
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ค่ายฮีโร่อุดรธานีรับลูกหลานเพื่ออีก 69 คน รวมเป็นฮีโร่ทั้งหมด 395 คน ยังสามารถรับเข้ามากักตัวได้อีก แต่ช่วงนี้ที่ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม การทำงานของเจ้าหน้าที่ยังหนักการประสานงานคัดกรองน่าจะไม่สะดวก จึงชะลอการเดินทางกลับก่อน และดูท่าทีจะประกาศการเดินทางอีกครั้งลูกหลานอุดรธานีที่ยังตกค้างเตรียมตัวให้พร้อมในการเดินทางกลับมาบ้านเกิดดังกล่าว
