เจาะประเด็นร้อน : คำต่อคำ สนธิญาณ จัดหนักเอาชัดๆ ทำไมสมคิดถึงช้ำ? ทำไมลุงป้อมต้องระวัง “สามมิตร”
วันที่ 4 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานสถาบันทิศทางไทย และสื่อมวลชนอาวุโส ได้มีการ Live ผ่านเฟซบุ๊ก สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม วิเคราะห์การเมืองสถานการณ์ร้อนของพรรคพลังประชารัฐ “ทำไม สมคิดถึงช้ำ? ทำไมลุงป้อมต้องระวัง “สามมิตร” แบบชัด ครบ จบ จริง
สนธิญาณ เล่าว่า จากประสบการณ์ การทำข่าวการเมืองมาค่อนชีวิตกว่า 30 กว่าปี สมัยที่พล.อ.เปรม ติณสูรานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ทักษิณ ยังเป็นตำรวจติดตาม รัฐมนตรีปรีดา พัฒนถาบุตร ในช่วงที่ยังไปยืนแจกเงินในห้องน้ำสภาเพื่อล้มรัฐบาล ป๋าเปรม
อยู่ท่ามกลางม๊อบไปไล่ ป๋าเปรม ที่บ้านสี่เสา เทเวศร์ พี่เหลิม(ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง) ของผม คนสนิทกับน้าชาติ ในตอนนั้น เป็นคนบัญชาการม๊อบ ที่ไม่เอาป๋าเปรม ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ก็มาชัดตอนที่ ป๋าเปรม ประกาศว่า ไม่เอาตำแหน่งนายก ตำแหน่งจึงมาตกที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัน เป็นนายกรัฐมนตรี (พล.อ.เปรม กับ พล.อ.ชาติชาย เป็นเพื่อนเรียนเตรียมทหารมาด้วยกัน)
ต่อมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็กลายเป็นนักการเมืองตัวฉกาจ โดยเริ่มต้นการเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และน่าจะเป็นชนวนที่ทำให้ บิ๊กจ็อด พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ (บิดา พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์) / พล.อ.สุจินดา คราประยูร และบรรดา จปร.5 ยึดอำนาจ เพราะ เอารถรถดักฟังสัญญาณ อสมท.ไปประกบกับทหาร เพราะตอนนั้น การนำทางทหารของ จปร.5 นั้นเอง
สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน
สนธิญาณ กล่าวว่า มามองในสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ภายในพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสามมิตร ที่ปัจจุบันเป็นกระแสชื่นชม หรือ กระแสยี้ ก็แล้วแต่ผู้ชมจะพิจารณา
ไม่ว่าใครจะปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มสามมิตร อย่าง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ ทั้งที่อยู่มาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน จะออกมาบอกว่า ไม่ได้อยู่ หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่อยากให้มีกลุ่มสามมิตร แต่กลุ่มสามมิตรนี้มีมานานแล้ว ว่ากลุ่มสามมิตรนี้ประกอบด้วย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ , สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ , สมศักดิ์ เทพสุทิน ทั้งสามมีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่มารวมตัวกัน สมัย ทักษิณ ชินวัตร พรรคไทยรักไทย
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ท่าทีแนวนักวิชาการ ,สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มาแนวฝั่งนักธุรกิจ ,สมศักดิ์ เทพสุทิน มาแนว นักการเมืองบ้านนอก ตรงไปตรงมา โตมาเพราะ คุณมนตรี พงษ์พาณิชย์ ทั้งหมดก็ได้มารวมตัวกัน เกาะกลุ่มกันมา จึงเรียกว่ากลุ่มสามมิตร
เมื่อไทยรักไทยแตก 2549 หลังยึดอำนาจ และพล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงนั้น บรรดาแกนนำต่างๆของไทยรักไทย ก็เตรียมออกมาตั้งพรรคใหม่ จนกระทั่งมาเป็นพรรคพลังประชาชน ที่มีคุณสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรค ได้คะแนนเสียงถล่มทลาย ภายใต้การหนุนของ ทักษิณ ชินวัตร คุณสมศักด์ ตอนนั้น ก็ออกมาทำพรรคการเมืองเอง ปรากฏว่า ตอนนั้นก็ได้มีการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมขับไล่ คุณทักษิณ อันนี้ถือเป็นตัวอย่างนึง ของนักการเมืองไทย ที่อยากจะฉายภาพให้เห็น ตอนนี้ คุณเสนาะ เทียนทอง ก็ได้ออกมาถล่มคุณทักษิณ เชียร์พันธมิตร และได้เตรียมการตั้งพรรคเมือง โดยมีนักธุรกิจที่ชื่อ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ซึ่งตอนนั้นโกรธคุณทักษิณมาก ที่วางแผนจะยึดบริษัท ทีพีไอ จึงได้ร่วมกันกับคุณเสนาะ เทียนทอง และยังมี ประมวล รุจนเสรี รัฐมนตรีสมัยทักษิณ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย พี่บุญถึง ผลพาณิชย์ ได้มารวมตัวกันตั้งพรรคการเมืองและให้ คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เป็นเลขาฯพรรค แต่ปรากฏว่า จะตั้งพรรคเดือนสิงหาคม แต่เดือนกันยายน ยึดอำนาจ คุณประชัย จึงประกาศยุติทางการเมือง เพราะคุณทักษิณ ได้ถูกโค่นล้มไปแล้ว เหมือนจะจบ แต่ก็ไม่จบเพราะมีตัวละคร หนึ่งใน สามมิตร ชื่อ สมศักดิ์ เทพสุทิน จะมาตั้งพรรค โดยตกลงกับคุณประชัย เพื่อจะออกมาตั้งใหม่ ชื่อ พรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งคุณประชัย ก็ลงทุนไปเยอะ มีขั้นตอนกฎหมายที่ไม่ลงตัว หลายขั้นตอน แล้วปรากฏว่า คุณประชัย ที่คาดว่าจะได้เป็น รัฐมนตรีก็ไม่ได้เป็น จึงมีชื่อคุณสมศักดิ์ เทพสุทินที่โด่งดังขึ้นมาในตอนนั้น
ก่อกำเนิดพรรคพลังประชารัฐ
สนธิญาณ กล่าวต่อว่า คุณชวน ชูจันทร์ ได้ไปแจ้งก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2561 คุณชวน เป็นเพื่อ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ ดร.พรชัย เป็นเพื่อนกัน เมื่อตั้งแล้ว ทุกคนก็รู้ว่าตั้งมาเพื่อ หนุนลุงตู่ เป็นนายกต่อ ด้านหนึ่งเจอกระแส โจมตีการสืบทอดอำนาจ อีกด้านหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นความหวังของคนที่รักชาติ รักแผ่นดิน และมีอุดมการณ์ เพราะตอนนั้น ชื่อคนที่เสนอตัวเป็นนายก ก็มี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ / คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ / ส่วนของอีกฝั่งนึง ก็คาดหวังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปชช.ก็หวังจะให้เป็นนายกต่อ ก็แน่นอน หวยจึงมาออกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นหัวหน้าพรรค
พรรคนี้ได้ถูกตั้งขึ้น หลังที่มีการเลือกกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 29 ก.ย.61 คุณอุตตม สาวนายน ,คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ,คุณสุวิทย์ เมษินทรี , คุณกอบศักดิ์ ภูตระกูล เรียกว่า 4 กุมาร ซึ่งได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ ของ รัฐบาล คสช. เพราะได้โละทีมเศรษฐกิจของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล พร้อมคณะออกหมด จึงได้แต่งตั้ง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกฯดูด้านเศรษฐกิจ มาพร้อมกับ ลูกน้อง 4 กุมาร ลูกศิษย์ก้นกุฎิได้คุมกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด
ดังนั้น การที่ ทั้ง 4 คน มาตั้งพรรคพลังประชารัฐ แน่นอนว่า ดร.สมคิด ก็ปฏิเสธเป็นอย่างอื่นไม่ได้
ทำไมถึงต้อง 4 กุมาร ทำไมไม่ใช่พล.อ.ประวิตร หรือทหารคนอื่นๆ ในการตั้งพรรคพลังประชารัฐ
สนธิญาณ ฉายภาพให้เห็นชัดว่า แน่นอนว่า การตั้งพรรคพลังประชารัฐนั้น ต้องการไม่ให้สังคมมองว่าเป็นพรรคทหาร เป็นพรรคสืบทอดอำนาจ ซึ่งผมก็รำคาญทางการเมือง ซึ่งจริงๆก็รู้อยู่แล้วว่า ต้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จะไปกลัวอะไรกับการสืบทอดอำนาจ จึงส่งผลมาจนถึงทุกวันนี้
ผมเรียนนะครับ 4 คนที่มาก่อตั้งพรรคนั้น เป็นคนดี เป็นนักวิชาการ แต่ละอ่อนในทางการเมือง ดังนั้น แนวคิดที่มาตั้งพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้เป็นภาพคนรุ่นใหม่ นักวิชาการน้ำดี ให้คนได้เชียร์ แต่พอจะตั้งพรรคจริงๆ กลับไม่มีความมั่นใจว่า จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งแตกต่างจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคอนาคตใหม่ เพราะตอนนั้น ธนาธร เดินหน้าตั้งพรรค ชูอุดมการณ์ จะผิดหรือถูก ก็ไม่รู้แหละ แต่เดินหน้าหาเสียงภายในอุดมการณ์ ยุทธศาสตร์ของพรรค ลงทำงานพื้นที่เคลื่อนไหวเชิงลึก จริงจังตลอดเวลา ซึ่งผมแอบชื่นชมว่า การทำงานการเมือง ก็ต้องทำแบบนี้ ลงพื้นที่เชิงลึก เพราะไม่อย่างนั้น ก็จะกลายเป็นพรรคเฉพาะกิจ มาแล้วก็หายไป ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง พรรคอนาคตใหม่ก็ประสบความสำเร็จ แต่พรรคพลังประชารัฐ กระแสยังไม่มี จึงมีความจำเป็นต้องไปดึงนักการเมืองรุ่นเก่ามา
จุดเริ่มต้น กลุ่มสามมิตร เข้าร่วม พรรคพลังประชารัฐ
ก็เดินสายดึงนักการเมือง และกลุ่มหนึ่งที่ดึงเข้ามาก็ ก็กลุ่มสามมิตร ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้หรอก เพราะ 25 ก.ย.2561 มีการจัดงานเปิดตัวกลุ่มสามมิตรใหญ่โต เพราะก่อนหน้านั้นมีกระแส กลุ่มสามมิตร จะเข้ามาแล้วเสียงยี้ดังกล่าวทั่ว ท่านก็อย่ามาโกรธผมเลย กระแสเสียงช่วงนั้นชาวบ้านลือแบบนั้นจริงๆ
อย่างคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน ท่านก็ทำการเมืองมานาน บอกตอนนั้นเปิดตัวมีคน 200 กว่าคน ตอนนี้ได้คัดส.ส.เกรดเอ 50 คน เชื่อว่าถ้าลงจะได้รับเลือกส.ส.แน่ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มดาวฤกษ์ กลุ่มอบจ. อบต.ตัวเก็งต่างๆ ถ้าลงเลือกตั้ง กลุ่มสามมิตร ทำเพื่อสร้างกระแส ในการเข้าพรรคพลังประชารัฐ ที่จะมีการจดทะเบียนในวันที่ 29 ก.ย.2561 วันนั้น กลุ่มสามมิตรประกาศจะมีส.ส.ประมาณ 80 คน จึงเป็นที่มาให้กลุ่มสามมิตรเข้ามาในพรรคพลังประชารัฐ
กลุ่มทหารไม่ตอบรับ กลุ่มสามมิตร เข้าพรรค
นายสนธิญาณ กล่าวต่อว่า จากการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ แหล่งข่าวผมในสายทหาร ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่อยากให้กลุ่มสามมิตรเข้ามาร่วมกับ พลังประชารัฐ ณ เวลานั้น สายทหารไม่ต้องการกลุ่มสามมิตร แต่สาย ดร.สมคิด โดยบทบาทของ 4 กุมาร ต้องการ
แต่เมื่อเลือกตั้ง ผลออกมา พปชร. ได้ปาร์ตี้ลิสต์ 89 คน ได้ส.ส.100 กว่าคน
กลุ่มสามมิตรได้ส.ส.มาประมาณ 10 กว่าคน เมื่อพรรคได้ส.ส.เสียงปริ่มน้ำมาก ดังนั้น การช่วงชิง ส.ส.เพื่อให้ได้จัดตั้งรัฐบาล จากการดึงคุณอนุทิน ชาญวีรกุล พรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเสียงปริ่มน้ำมาก ณ ตอนนั้น
การตั้งรัฐบาล โดยการเจรจาต่อรองกับ พรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทย ล็อกเป้า กระทรวงคมนาคม /พรรคประธิปัติย์ กระทรวงพาณิชย์ กับ เกษตร นายกจำต้องให้เพราะวันนั้นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ
ปรากฏว่า 4 กุมาร กับ สามมิตร แห่ขันหมากไปพรรคประชาธิปัติย์ กับ ภูมิใจไทย เพราะ สุริยะต้องการ ก.พลังงาน สมศักดิ์ ต้องการกระทรวงเกษตร สุดท้ายก็จบลงเพียงเท่านี้
ความแตกแยกของ พลังประชารัฐ
สนธิญาณกล่าวถึงเรื่องความแตกแยกภายในพรรคพลังประชารัฐ จุดเริ่มต้น เพราะคุณสมศักดิ์ ต้องการให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. คุณสมศักดิ์ โพสต์วันนี้จะมีข่าวใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ และหลังจากนั้น ก็ให้คุณไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพปชร. เป็นคนมาแถลงว่า 18 กรรมการบริหารพรรคลาออก จึงต้องมีการประชุมเพื่อคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ เลือกหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคใหม่ เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเป้าทั้งหมดมาที่คุณสมศักดิ์ เสียงด่าก็มาเทลงที่ พล.อ.ประวิตร ซึ่งคุณสมศักดิ์ ก็มีวิธีเดินเกมส์การเมืองแบบคุณสมศักดิ์
ต่อมา คุณวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน เป็นทีมของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ก็ออกมาแถลงว่า ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไม่เอาสามมิตรแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายจะมาปฏิเสธว่าไม่เคยอยู่หรือเคยเป็นกลุ่มสามมิตร แต่คุณวัชระก็ออกมาพูดเอง ดร.สมคิดไม่เอาสามมิตรแล้ว แหม หอบเสียง 20 เสียงมาว่าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ตอนนี้ไม่เอาแล้ว หมดราคา นี่คุณวัชระ ว่า
วันนี้ คนจับตา ที่สามมิตรเคลื่อนไหวแบบนี้ เพราะต้องการเก้าอี้ที่หวังไหว้หรือไม่ เป็นการเคลื่อนไหวที่รู้ทางลมหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่ง ที่ต้องเรียนบอกคุณสมศักดิ์ คุณสุริยะ และอยากจะบอกท่านนายก ว่า
1.เมื่อพรรคพลังประชารัฐต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี 3 คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2.ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ 3.ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอา อยากถามผู้ชมไตร่ตรองว่า ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่ยอม เสนอ 3 ชื่อ และต้องให้เสนอชื่อคนเดียว มันต้องมีประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์คิด ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นความไม่ธรรมดาทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์
จนมาถึงการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รู้ทั้งรู้ว่าคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องการกระทรวงพลังงาน รมว.พลังงาน กับเป็นของ คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เพราะข่าวที่ออกมาชัดเจนแล้วว่า กระทรวงพลังงานเป็นของพปชร. ทุกคนก็คิดว่าเป็นของคุณสุริยะแน่ ขณะเดียวกัน อีกชื่อที่คิดว่าจะเป็นรัฐมนตรีพลังงาน ก็คือ คุณณัฎฐพล ทีปสุวรรณ อดีต กปปส. ซึ่งมีข่าวว่า บิ๊กพลังงาน (ภาคเอกชน) หนุน เพื่อจะได้เอื้อในทางประโยชน์ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงให้ คุณสนธิรัตน์นั่ง นี่คือความไม่ธรรมดาของ พล.อ.ประยุทธ์
การเมืองหลังจากนี้ อีก 41 วัน จะต้องมีการเลือกกรรมการบริการพรรคใหม่ 4 กุมาร โดยคุณ อุตตม ประกาศสู้ สู้แน่นอน กรรมการบริหารไม่ได้ชี้ขาด ส.ส.ต่างหากที่ชี้ขาด ฉะนั้น 41 วันต่อจากนี้ จับตาดูว่า 4 กุมารจะสู้อย่างไร
ผมอยากสรุปตอนท้ายว่าพี่น้อง 3 ป. พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงศ์ เพราะพล.อ.ประวิตร พูดอยู่แล้วว่า วันนี้ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ลง ก็ลงไปพร้อมกัน สิ่งที่พล.อ.ประวิตรทำก็เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้บริหาร นำพาบ้านเมืองไปให้ร้อดทั้งนั้น
ให้จับตา คนที่ชื่อ พีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ทำไมอยู่ๆ ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ธรรมดาในการตั้งคนเป็นที่ปรึกษา จากที่ปรึกษาก็ตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นชุดที่สำคัญมาก หรือแม้แต่ ศบค. ซึ่งก็มีคุณพีรพันธ์ ร่วมอยู่ด้วย พี่น้องคู่นี้เค้ารักกัน พล.อ.ประวิตร ยืนยัน ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไปเมื่อไหร่ ก็ไปเมื่อนั้น
ขอบคุณ เพจ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
