โหร”ฟองสนาน” ทำนายชะตาบ้านเมือง เครื่องมือฝ่าจันทร์ล่าราหู – ราหูค้นทรัพย์และเมืองถูกบีบ

โหร”ฟองสนาน” ทำนายชะตาบ้านเมือง เครื่องมือฝ่าจันทร์ล่าราหู – ราหูค้นทรัพย์และเมืองถูกบีบ

จากเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดในเมืองไทย บางครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะดวงบ้านดวงเมือง ซึ่งล่าสุด โหรฟองสนาน จามรจันทร์ ได้ทำนายชะตาบ้านเมืองครั้งล่าสุดว่า “เครื่องมือฝ่าจันทร์ล่าราหู – ราหูค้นทรัพย์และเมืองถูกบีบ

ดวงเมืองรัตนโกสินทร์
พระราหูศรีจร (8) ดวงเมืองเดินอยู่ในราศีพฤษภระหว่าง 10 กันยายน 2563 – 29 มีนาคม 2565 พระอังคารกาลกิณีจร (3) เดินในราศีเมษ 10 สิงหาคม – 10ตุลาคม 2563 เดินผิดปกติระหว่างราศีเมษและมีนระหว่าง 10 ตุลาคม – 24 กุมภาพันธ์ 2564

พฤหัสบดิ์ – เสาร์ – ราหู ทั้งสามหมู่มาเป็นศรี ต้องลัคน์ – จันทร์สังฆี ปวัติติสามีอาราม บริบูรณ์ปริขาร ไทยทานก็เหลือหลาม ขึ้นชื่อระบือนาม วรศักดิ์สังฆราช์ แม้จวบพระเคราะห์ใด ทวะเว้นไว้แต่ตัวกาล์ กล่าวคุณอุตม์มหา มหิทธิโชคในปางปี

จากลิลิตทักษาพยากรณ์ พระนิพนธ์เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี

โคลงบทนี้จะชี้แนวทาง – บอกเครื่องมือที่จะใช้ฟันฝ่าสามปรากฎการณ์ใหญ่ที่รอจะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 – 24 กุมภาพันธ์ 2564 (เป็นอย่างเร็ว) ซึ่งผู้เขียนจะได้อธิบายความหมายต่อไป

แต่นอกจากปรากฎการณ์จันทร์ล่าราหู (ศรีจร) และราหู (ศรีจร) ค้นทรัพย์ดวงเมืองที่ผู้ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น อยากจะขอพูดถึงปรากฎการณ์ที่สามที่ซ้อนเข้ามาคือปรากฎการณ์เมืองถูกบีบ – คลาย – บีบว่ามาจากอะไร

หลักนี้เกิดจากการที่ดาวร้ายหรือบาปเคราะห์บีบ – หน้า – หลังลัคนาเมืองที่สถิตราศีเมษ โดยปรากฎการณ์รอบนี้เกิดจาก
1.พระราหูศรีจร (8) ที่เดินตามเข็มนาฬิกาจะเริ่มย้ายจากมิถุนเข้าพฤษภอยู่หน้าราศีเมษที่ลัคนาเมืองสถิตอยู่ตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไปเป็นตัวตั้งต้นขบวนการบีบเมืองไปถึง 29 มีนาคม 2565 แล้วรอดาวร้ายอื่นมาร่วมปรากฎการณ์เป็นระยะๆ เช่นรอบแรกคือ

2.ครั้นตั้งแต่ประมาณ 10 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไปพระอังคารกาลกิณีจร (3) ดวงเมืองจะเดินผิดปกติจากเมษถอยหลังเข้าราศีมีนอยู่หลังลัคนา ร่วมขบวนการบีบลัคนาเมืองให้อยู่ตรงกลาง หลังจากนั้นพระอังคารกาลกิณีจรนี้จะเดินเข้า – ออกระหว่างราศีเมษกับมีนไปถึง 24 กุมภาพันธ์ 2564 (อยู่เมษทับลัคนาทับอาทิตย์ (1) ดวงเดิมดวงเมือง)

ฉะนั้นระยะประมาณ 10 กันยนยน 2563 เป็นต้นไป ปรากฎการณ์บีบ – คลาย – บีบในเมืองจะเกิดเป็นระยะๆ แล้วจะหยุดบีบรอบนี้คือเมื่อพระอังคารกาลกิณีจรนี้เข้าไปเดินพฤษภตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

ด้วยปรากฎการณ์ทั้งหลายนี้ผู้เขียนจึงยังย้ำเหมือนเดิมคือสำหรับท่านที่ติดตามบทความที่ไม่ได้เรียนหรือมีความรู้พื้นฐานทางโหราศาสตร์ ก็ขอสรุปภาพกว้างๆ ให้ทราบไว้แต่เพียงว่า ตั้งแต่ประมาณ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไปจะเริ่มมีปรากฎการณ์อลวนสำคัญทั้งดี-ร้ายในเมือง (ดาวใหญ่เดินผิดปกติหลายดวง – บวกจันทร์ล่าราหูและราหูค้นทรัพย์)ทั้งทางเศรษฐกิจ – การเมือง – ภัยพิบัติขนาดใหญ่จนบางระยะเหมือนเมืองถูกบีบ-คลาย-บีบสลับกันไป ถึงอย่างต่ำวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อเดินหน้าสู่วันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2564 อันเป็นหมุดหมายของปีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

ทีนี้มาว่ากันถึงเครื่องมือที่เมืองจะใช้ฟันฝ่าไป ถึงอย่างต่ำวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ตามโคลงที่ขึ้นไว้ตั้งแต่ต้นอธิบายว่า ดวงชะตาใดก็ตาม หากปีใดที่ตามหลักทักษาแล้วพฤหัสบดีเป็นศรีจร – หรือพระเสาร์เป็นศรีจรหรือพระราหูเป็นศรีจร หากปฏิรูปตัวเองครั้งใหญ่ (ไปตามรายละเอียดของแต่ละดวงชะตา) แล้วละก็ จะเหมือนกับพระเจ้าคณะลุกขึ้นมาปรับปรุงคณะของท่านเป็นการใหญ่ ผลคือเงินบริจาคไหลมาเทมา ท่านได้เป็นพระราชาคณะ หรือหากวาสนาสูงพอจะได้เป็นถึงพระสังฆราช

นั่นคือจะได้มหิทธิโชค ซึ่งความหมายตามพจนานุกรมแปลว่า มีฤทธิ์มาก, มีความสำเร็จใหญ่ คือทำการใหญ่ๆ ได้สำเร็จโดยไม่มีอะไรขัดขวาง


อาการเช่นว่านี้ในชีวิตของคนเก้าปีจะมีจังหวะดีๆ ให้สามปี หากท่านใดมาดูดวงชะตาเห็นจังหวะสามปีนี้ผู้เขียนจะแนะนำให้กล้าปรับปรุงชีวิตขนานใหญ่ไปตามท้องเรื่อง(รายละเอียดของแต่ละคน)เพื่อรับโชค เพราะช่วงเวลานี้ทำแล้วจะได้มากกว่าเสีย

ตัวอย่างที่เห็นๆ ในเมืองรัตนโกสินทร์คือแม้จะมีเคราะห์ใหญ่จากโรคระบาดโควิด 19 ขนาดตั้งแต่ต้นปี 2563 เคยเป็นประเทศอันดับสองของโลกรองจากจีนในแง่คนติดเชื้อและตาย โดยวันที่ขนหัวลุกกันคือ 22 มีนาคม 2563 ติดเชื้อรายใหม่ถึง 188 คน หลังจากนั้นก็ตามมาเป็นร้อยคนต่อวัน การรับมือก็อลวนอลเวงพิกลเพราะทำงานไม่ทันใจประชาชน

ครั้นเห็นท่าจะไม่ดีจึงในระหว่างนั้นที่พฤหัสบดี ที่เป็นตัวแทนทั้งกฎหมาย และระบบสาธารณสุขกำลังเป็นศรีจรอยู่ คณะรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงใหญ่โดยอนุมัติให้ใช้พรก.ฉุกเฉินเข้ารับมือโควิด 19 ตั้งแต่ 24 มีนาคม 2563 เป็นต้นมาโดยไม่รีรอ

เรียกได้ว่าเมื่อจำเป็นต้องจำกัดเสรีภาพประชาชน-ปิดประเทศ – ห้ามการเดินทาง – จำกัดเวลาออกจากบ้านฯลฯ สำคัญคือจำกัดอำนาจของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงยึดเอาอำนาจมาอยู่ที่ศบค.ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอดถือเป็นการใช้มาตรการตีฝ่าครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ดวงเมือง

ผลจากการกระทำครั้งนั้นเริ่มพัฒนาให้เห็นตั้งแต่ 21 เมษายน 2563 ครบรอบวันเกิดเมือง 238 ย่าง 239 ปีที่พระราหูเปลี่ยนมาเป็นศรีจรแทนพฤหัสบดีคือ

1.พระราหูศรีจรที่กำลังเดินอยู่ในราศีมิถุนจวบคือเล็งใส่พฤหัสบดีดวงเดิม (5) ที่สถิตราศีธนู ให้มหา – มิหิทธิโชค ผลคือวงการแพทย์และสาธารณสุขชื่อเสี่ยงโด่งดังเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกที่หลายประเทศกล่าวขวัญถึง ขนาดอมส.ยังดังระเบิดระเบ้อ จนหากทำดีๆ สามารถต่อยอดให้ไทยเป็น HUBด้านสุขภาพได้

2.พระราหูศรีจร กำลังเดินอยู่ในราศีมิถุนจวบคือเล็งใส่พระเสาร์ดวงเดิม (7) ที่สถิตราศีธนู อันพระเสาร์นี้เป็นตัวแทนรัฐบาล – การแบกภาระหนัก – การบริหารราชการแผ่นดิน ผลคือรัฐบาลโดยรวมเข้มแข็งขึ้นโพลล์ออกมาดีกว่าเดิม อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯก็ออกทีวี.พูลรุกชวนคนไทยมีส่วนร่วมบริหารประเทศแบบนิวนอมอล เรียกได้ว่ารุกเต็มที่

ครั้นตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไปพระราหูศรีจรจะย้ายจากมิถุนเข้าราศีพฤษภ สร้างปรากฎการณ์จันทร์ล่าราหู – ราหูค้นทรัพย์ – และเมืองถูกบีบ – คลายคลาย – บีบ แต่ความเป็นศรีจรของพระราหูก็จะให้คุณคุ้มค่ากับการฟันฝ่า – กล้าเปลี่ยนแปลง – ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ซึ่งตอนหน้าจะได้หาตัวอย่างมาให้ดูว่าการยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง-ตีฝ่าของเมืองเพื่อให้ได้มหา – มหิทธิโชคเน้นไปด้านเศรษฐกิจนั้นเคยมีหรือไม่และทำแล้วผลเป็นอย่างไร?

ฟองสนาน จามรจันทร์
19 มิถุนายน 2563

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม