ลำพูนถอดบทเรียนกรณีเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำมันชนท้ายรถยนต์เก๋ง เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุ
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 63 นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปลัด จ.ลำพูน เป็นประธานประชุมถอดบทเรียนกรณีเกิดอุบัติเหตุทางถนนรถบรรทุกน้ำมันชนท้ายรถเก๋ง น้ำมันรั่วไหล เกิดเพลิงไหม้ เพื่อสร้างความตระหนักและจิตสำนึกด้านความปลอดภัยแก่ประชาชน และผู้ใช้รถใช้ถนน โดยมีนายอำเภอ , หัวหน้าส่วนราชการ , งานป้องกันและบรรเทาสาธารณณภัย(ปภ.)ประจำ อปท. , สาธารณสุขจังหวัด/อำเภอ , โรงพยาบาล และหน่วยงาน องค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุมหริภุญชัย ชั้น 2 ศาลากลาง จ.ลำพูน ถนนอินทยงยศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน
การประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีอุบัติเหตุทางถนนรถบรรทุกน้ำมันชนท้ายรถเก๋ง น้ำมันรั่วไหล เกิดเพลิงไหม้ บนถนนซุบเปอร์โฮเวย์ ทางหลวงหมายเลย 11 เชียงใหม่-ลำปาง บริเวณ กม ที่ 503 ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.63 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต(ขับรถบรรทุก) เป็นชาย จำนวน 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ(รถยนต์เก๋ง) จำนวน 4 ราย
ในที่ประชุมฯมีมาตรการและข้อเสนอแนะในการเฝ้าระวังและลดการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้
1. การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง มีการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ จับกุม ตักเตือน ลงโทษผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะการขับรถเร็วเกินกำหนด ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บและเสียชีวิต
2. การปลูกจิตสำนึก สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการขับขี่ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนให้กับประชาชน ผ่านทุกช่องทาง ในเรื่องของความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎจาราจรอย่างต่อเนื่อง และให้หน่วยงานที่ดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งมวลชนขนส่งสินค้า วัตถุอันตราย เพิ่มความระมัดระวัง ตรวจสอบสรรถภาพผู้ขับขี่ให้มีความพร้อมอยู่เสมอ เพื่อสร้างความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน
3. สำหรับด้านวิศวกรรมจราจรและสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการติดตั้งป้ายจำกัดความเร็ว รวมถึงการติดตั้งกล้อง Your Speed และป้ายเตือนความเร็ว ติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว แบบประจำที่ ติดตั้งป้ายแจ้งเตือนจุดเสี่ยง จุดอันตราย และ ติดตั้งเนินลูกระนาดในจุดที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
ด้านการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินกรณีรถบรรทุกน้ำมันเกิดอุบัติเหตุ และมีน้ำมันรั่วไหล เกิดเพลิงไหม ได้แก่ กรณีเกิดอุบัติเหตุ ให้พนักงานขับรถถ้าสามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ให้โทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินไปยังหมายเลข 191 (ตำรวจ) , หมายเลข 1669 (EMS บริการการแพทย์ฉุกเฉิน), หมายเลข 199 (ดับเพลิง), หมายเลขของบริษัททางต้นสังกัด และ หมายเลขสายด่วน ปตท. 1365 หรือ 02-1402222
สำหรับการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ที่รับผิดชอบในพื้นที่ ให้โทรประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย โทร. 1784 หรือ 053-562963 สนง.ปภ.จ.ลำพูน, โทร. สายด่วน ปตท. 1365,02-1402222 ,โทร.053-511051,053511070 (แขวงทางหลวงลำพูน), โทร.1356 (ศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม), โทร.053-525548 (ขนส่ง จ.ลำพูน), โทร. 1650 (กรมควบคุมมลพิษ) , โทร. 053-553358 (พลังงาน จ.ลำพูน) และโทร. 053-510662 (ทสจ.ลำพูน)
ด้าน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(กอปภ.) เทศบาล/ทต./อบต. ให้ดำเนินการตาม พรบ.ปภ. พ.ศ.2550 และแผนปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่น ประกอบด้วย 1.รายงานผู้อำนวยการท้องถิ่น/ผู้อำนวยการอำเภอ 2.จัดชุดเผชิญเหตุเข้าระงับเหตุ พร้อมประเมินสถานการณ์ 3.ระดมทรัพยากรจากหน่วยงานในพื้นที่เพื่อจัดการเหตุการณ์ และ 4. หากเกินขีดความสามารถของตนเองให้ประสานขอรับการสนับสนุนทรัพยากรจากหน่วยงานในพื้นที่ข้างเคียง หรือหน่วยงานอื่นๆ ภายในจังหวัดโดยให้ประสานผ่านผู้อำนวยการอำเภอทันที..
กรรณิการ์ วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน รายงาน
