ส.ส. เสียงข้างมาก 250 มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ 8.8 หมื่นล้านบาท

ส.ส. เสียงข้างมาก 250 เสียงผ่านร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ 8.8 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 ที่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎรได้ประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. … จำนวน 88,452,597,900 ล้านบาท ในช่วงบ่ายหลังจากที่กรรมาธิการเสียงข้างน้อยที่สงวนความเห็นได้อภิปรายแล้ว เป็นการอภิปรายของ ส.ส. ที่สงวนคำแปรญัตติ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณส่วนนี้มากจนเกินไปมีการกู้เงินมาก่อนหน้านี้แล้ว 1.1 ล้านล้านบาท อีกทั้งร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ยังไม่ให้อำนาจสภาผู้แทนราษฎรปรับลดหรือเพิ่มวงเงิน ทั้งที่มีการตัดงบประมาณของบางโครงการที่มีความจำเป็นต้องใช้

นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินในการดำเนินนโยบายมหาศาล ทั้งที่ประชาชนยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเดือดร้อน ไม่มีใครช่วยเหลือ ขณะเดียวกันหลายหน่วยงานยังมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณปี 2563 ในระยะเวลาอีก 5-6 เดือน แต่ต้องถูกตัดงบประมาณมาเข้างบกลาง โดยไม่กล้าขัดขืน สิ่งที่รัฐบาลอ้างความจำเป็นโดยที่ไม่ได้มองความจำเป็นของหน่วยงานที่เขาต้องใช้ ถือว่าไม่ได้ให้ความเป็นธรรมของหน่วยงานเหล่านั้น คำนึงถึงแต่อำนาจของตัวเองที่จะเอางบประมาณในใช้สั่งจ่ายด้วยอำนาจตามที่เห็นว่าจำเป็น
 

นายประเดิมชัย ยังกล่าวว่า อีกทั้งการจัดสรรงบประมาณกลุ่มจังหวัดที่นำไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเพราะรู้จักปัญหาของตัวเองดีแต่กลับถูกตัดงบออกไป แล้วหลังจากนั้นหากถูกเอาการตัดงบนี้ไปเป็นบรรทัดฐานในการตัดงบปีต่อไป พวกเขาก็จะเดือดร้อน ตนจึงเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ใช้วิธีไสยศาสตร์ในการจัดสรรงบประมาณ หรือที่เรียกว่าผีถ้วยแก้ว สิ่งที่ต้องตนการให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขในมาตรา 4 คือการเพิ่มข้อความแทนที่จะให้อำนาจกับนายกรัฐมนตรีใช้งบประมาณคนเดียว เปลี่ยนเป็นการได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีความรับผิดชอบร่วมกันและมีความละเอียดรอบคอบมากขึ้นเพื่อให้เจ้ากระทรวงได้ดูแลรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ไม่สามารถที่จะปรับลดหรือเพิ่มจำนวนงบประมาณที่โอนมาใส่งบกลาง ไม่เช่นนั้นสภาผู้แทนราษฎรจะไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ และไม่สามารถทำงานได้มาก ควรปรับคำให้มีการปรับจำนวนงบประมาณได้ เช่น คำว่าไม่เกินจำนวนเท่านี้ เพื่อให้ปรับงบประมาณได้ตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ตามจากการที่ ส.ส. หลายคนอภิปรายว่าปรับลดงบประมาณในบางหน่วยงานที่จำเป็นแต่สำหรับงบประมาณกระทรวงกลาโหมกลับถูกอภิปรายว่าปรับลดน้อยเกินไป ทำไมถึงกระทรวงกลาโหมมีสิทธิพิเศษที่ทอนการปรับลดเหลือแค่ 10% และประเด็นสุดท้ายคือปัญหาโควิดถูกครอบคลุมด้วยเงินกู้ 1.1 ล้านล้านบาท และงบประมาณที่จะโอนมาจากงบประมาณปี 2563 นี้คือเงินเตรียมไว้สำรองสำหรับภัยแล้งหรือภัยธรรมชาติอื่น ซึ่งปลายปีงบประมาณนี้เหลืออีก 4 เดือน แต่กลับตั้งงบมาถึง 8.8 หมื่นล้านบาทซึ่งเยอะกว่าความเป็นจริงใช้เพียงแค่ 4 หมื่นล้านก็เพียงพอแล้ว ตนจึงขอตั้งคำถามว่างบประมาณตรงส่วนนี้จะเอาไปทำอะไรกันแน่ หรือมีสัญญาจัดซื้ออะไรไว้หรือโครงการลึกลับที่ซ่อนไว้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การตัดงบประมาณไม่มีความรอบคอบ นายกรัฐมนตรีไม่ใช่ป๋าที่จะเอาเงินไปแจกใครก็ได้ หลายหน่วยงานถูกตัดงบประมาณในหลักหมื่นบาท เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม หรือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี หรืองบประมาณจำเป็นของผู้สูงอายุกลับถูกกตัดออกไปเป็นหลักล้านบาท ตนจึงสงสัยว่าเอาอะไรไปวัดว่าหน่วยงานไหนตัดเท่าไร ตนจึงขอแปรญัตติให้มีคณะกรรมการหรือคณะกรรมาธิการกลั่นกรองการใช้เงินของนายกรัฐมนตรีก่อนการอนุมัติใช้ทุกครั้ง

ขณะเดียวกัน นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ และนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส. พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยกับการตัดลดงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ส่วนนางสาวละออง ติยะไพรัช ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทยอภิปรายปรับลดงบประมาณลง 20% โดยไม่ต้องการให้ตัดลดงบประมาณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากชาวบ้านยังเดือดร้อนเรื่องน้ำ ต้องนำงบประมาณเหล่านี้มาบริหารจัดการน้ำ อีกทั้งยังถามถึงนายกรัฐมนตรีว่างบประมาณที่ได้ไปจะนำไปทำอะไร ถ้าจะไปแจกให้คนเอาไปเที่ยวตนว่าไม่เหมาะสม ควรคืนงบประมาณการเกษตร การศึกษาสาธารณสุข มาให้หน่วยงานที่คิดและดำเนินโครงการ ลดความเหลื่อมล้ำเรื่องการรักษาพยาบาล เตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานและเรื่องน้ำเพื่อสำหรับเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  อภิปรายถึงโครงการหลายโครงการของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงคมนาคมที่ไม่น่าโอนกลับมา แต่อีกหลายโครงการที่ไม่มีความจำเป็นก็กลับไม่ได้โอนมา การพิจารณางบประมาณของกรรมาธิการก็มีเวลาน้อยและการเรียกเอกสารจากบางโครงการที่เข้าข่ายการตัดงบประมาณตามมติ ครม.ก็ล่าช้าจน ตอนนี้ก็ยังมาไม่ถึงซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเรียกเอกสารจากกรรมาธิการเสียงข้างน้อยหรือฝ่ายค้านที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เอกสารของกระทรวงกลาโหมก็เป็นเอกสารลับที่พิจารณาแล้วต้องเรียกคืนทันที ทั้งที่การโอนงบประมาณหลายร้อยโครงการกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท

 นายพิจารณ์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงว่าในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 กระทรวงกลาโหมจะทำแบบนี้อีกหรือไม่ เพราะคิดว่ามีความจำเป็นมากที่ต้องเก็บเอกสารไว้เพื่อพิจารณา โครงการของกองทัพบกมีการตั้งงบผูกพันปี 2562 ที่ไม่มีการเบิกจ่ายและไม่โอนงบประมาณ เช่น โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวน งบประมาณ 1,690 ล้านบาท ก็ไม่มีการโอนงบคืน และเมื่อดูกลับไปยังงบประมาณปี 2562 ก็เบิกจ่ายไม่ทันเช่นกันแล้วสุดท้ายก็โอนไปซื้อเครื่องแต่งกายแทนที่จะซื้อเฮลิคอปเตอร์

“จึงเป็นที่น่าจับตาว่ากองทัพบกจะนำงบประมาณของปี 2563 ที่ไม่โอนมางบกลางเอาไปทำอะไรอีก โครงการจัดหายานเกราะล้อยาง จำนวน 451 ล้านบาท โครงการจัดหาเครื่องบินใช้งานทั่วไป 165 โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกทดแทน 490 ล้านบาทและโครงการถมที่สร้างศูนย์ซ่อมการบิน 189 ล้านบาท รวม 1,295 ล้านบาท ดังนั้นผมจึงเห็นว่าควรเอางบจากโครงการเหล่านี้ของกองทัพมาใช้จ่ายหนี้เพื่อลดค่าเสียโอกาสจากดอกเบี้ยของรัฐบาล”นายพิจารณ์ ระบุ

 น.ส. ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ควรตัดงบเพิ่มโครงการส่งเสริมและเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้องจากแผนบูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้จำนวน 151 ล้านบาท เนื่องจากการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ต้องใช้ความเข้าใจร่วมกันไม่ใช่การยัดเยียดความจริง จากงบประมาณ 1,315 ล้านบาท ถูกตัดไปเพียง 113 ล้านบาท จากกองทัพบกและมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาตัดออกทั้งหมด แต่ กอ.รมน. ไม่ตัดออกเลย ทั้งที่โครงการนี้เป็นของ กอ.รมน. ที่พยายามยัดเยียดความจริงเพียงหนึ่งเดียวให้กับเด็กและเยาวชนอายุ 1-5 ปี ซึ่งตนเห็นว่าโครงการนี้ควรถูกตัดงบแม้แต่เวลาปกติ แต่ตอนนี้งบกลางก็ไม่เหลือแล้ว ดังนั้นโครงการเหล่านี้จึงเหมาะที่จะถูกตัดออกเป็นอันดับต้นๆ และถูกต้องตามหลักการในมติ ครม. ที่ควรถูกตัดทิ้ง แต่ กอ.รมน. เข้ามาชี้แจงโดยการลดจำนวนคนเข้าร่วมและเพิ่มจำนวนครั้งมากขึ้น ตนไม่มั่นใจว่าเป็นการฝืนมติ ครม. หรือไม่ และเหลือเวลาอีก 3 เดือนจะทำให้สำเร็จได้หรือไม่ หลายโครงการไม่ถูกจัดลำดับความเร่งด่วนว่าควรถูกตัดงบหรือไม่ ตนจึงคิดว่าการตัดโครงการนี้จะทำให้มีเงิน 151 ล้านบาทมาใช้หนี้ให้กับภาครัฐ

ด้านนายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ชี้แจงว่า รายการต่างๆ เช่นของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ถูกตัดงบประมาณออกไปไม่ได้หายไปไหน แต่เวลาในการจัดลดลงจึงตัดงบให้เหลือน้อยลง ส่วนกระทรวงกลาโหมมีหลายโครงการที่ถึงเวลาจัดซื้อจัดจ้างจึงมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณตัดงบไม่ได้ และในข้ออภิปรายเรื่องข้อกฎหมายว่างบกลาง ไม่ใช่หน่วยงานรับงบประมาณ ตนยืนยันว่าเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

หลังจากอภิปรายมีการลงมติในมาตรา 4 เห็นด้วยที่ไม่ต้องให้มีการแก้ไข 246 เสียง ไม่เห็นด้วย 185 เสียง งดออกเสียง 2 จากองค์ประชุม 433 คน ส่วนมาตรา 5-6 ไม่มีการแก้ไขและไม่มีผู้ติดใจอภิปราย กระทั่งเวลา 18.24 น.ที่ประชุมลงมติในวาระที่ 3 เห็นด้วย 250 เสียง ไม่เห็นด้วย 6 เสียง งดออกเสียง 178 จากองค์ประชุม 434 คน

ทั้งนี้ ส.ส.มติเอกฉันท์เห็นด้วยให้แนบข้อสังเกตท้ายร่างพระราชบัญญัติและยื่นต่อคณะรัฐมนตรีโดยนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวขอบคุณและยืนยันวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนและสนับสนุนเศรษฐกิจ พร้อมทั้งใช้จ่ายในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน โดยจะรับเอาข้อสังเกตในการประชุมไปประกอบการพิจารณาและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณต่อไป เพื่อให้การใช้จ่ายมีประสิทธิภาพ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม